หลังจากที่ Ducati ได้ทำการเปิดตัว Panigalr V4R เมื่อปลายปีที่แล้ว และถูกใช้งานเป็นรถแข่งในรายการ World SuperBike ซึ่ง อัลวาโร่ บัลทิสต้า สามารถทำผลงานขั้นสุดยอด เอาชนะไปได้ถึง 6 ครั้งติดต่อกัน สร้างความฮือฮาให้กับ Ducati Panigale V4R ในเรื่องความแรงและความคล่องตัวขั้นสุดยอดเป็นอย่างมาก และตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่ Panigale V4R จะมาเยือนเมืองไทย พร้อมให้เป็นเจ้าของแล้ว

ย้อนกลับไปเมื่อปลายปีที่แล้ว ในงาน Ducati’s World Premiere 2019 ทาง Ducati ได้ฤกษ์เปิดตัวรถซุปเปอร์ไบค์รุ่นใหม่ล่าสุด ที่ได้ต่อยอดขึ้นมาจากตัวแรงอย่าง Panigale V4S อันสุดยอดของทางค่ายเองกับ Panigale V4R คันนี้นี่เอง ซึ่งทาง Ducati ก็ได้จับเอาหลากหลายเทคโนโลยีเข้าไปเพิ่มเติมในรถคันนี้โดยเคลมว่านี่คือรถซุปเปอร์ไบค์สำหรับขายจริงที่แรงที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งค่าย Ducati ขึ้นมา ซึ่งถูกใช้เป็นรถตัวแข่งในรายการ World SuperBike อีกด้วย

สิ่งแรกที่ Panigale V4R แตกต่างจาก Panigale V4 และ V4S คือเครื่องยนต์ขนาด 998 ซีซี ซึ่งต่างจาก V4 และ V4S ที่ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1,103 ซีซี สาเหตุที่ Ducati เลือกใช้เครื่องยนต์ขนาดไม่เกิน 1,000 ซีซี เป็นเพราะว่าตัวรถจะได้ผ่านคุณสมบัติสำหรับใช้ลงแข่งขันในรายการต่างๆ ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น WorldSBK, British Superbike ที่กำหนดให้ใช้รถถนนจริงมาทำการแข่งขันขนาดไม่เกิน 1,000 ซีซี หรือรายการอื่นๆ ทั่วโลกก็ล้วนแล้วแต่กำหนดให้รถในคลาส Superbike จะต้องมีขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน 1,000 ซีซีเช่นกัน ส่วนเจ้า V4 และ V4S ที่ออกมาก่อนหน้านี้ ล้วนใช้เครื่องยนต์ V4 ขนาด 1,103 ซีซี ซึ่งมีปริมาตรกระบอกสูบเกินกว่ากฎการแข่งขัน ทำให้ Ducati ต้องปล่อยตัวรถที่พร้อมสำหรับการแข่งขันนี้มา

ไม่แต่เพียงเท่านั้น ตัวรถ Ducati Panigale V4R ยังมีข้อแตกต่างจากรุ่นก่อนหน้าอีกหลายจุด โดยเราได้ทำเป็นตารางสรุปความแตกต่างไว้แบบชัดๆ แล้วที่นี่ มาดูเปรียบเทียบกันครับ

เครื่องยนต์

ระบบส่งกำลัง

ตัวรถ

ในส่วนของระบบอื่นๆ นั้นยังคงเหมือนกับ Panigale V4S ทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นโหมดการขับขี่, โหมดความปลอดภัย และอื่นๆ ยังคงเหมือนกับ V4S

ทางด้านภายนอกที่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนนั่นคือแฟริ่งบริเวณลำตัวรถนั่นเอง โดยเจ้า V4R นี้จะมาพร้อมกับปีกคาร์บอน ที่มีหน้าที่สร้างแรงกดด้านหน้ารถสูงถึง 30 กิโลกรัมที่ความเร็ว 270 กม./ชม. เพื่อป้องกันอาการล้อหน้าลอย และทำให้ล้อหน้ายึดเกาะถนนได้ดีขึ้น แม้ขับขี่ด้วยความเร็วสูงคล้ายกับตัวแข่ง MotoGP ส่วน V4S จะไม่มีเจ้าสิ่งนี้

สิ่งที่ทำให้เจ้า V4R มีน้ำหนักตัวรถเดิมเบากว่า V4S ถึง 2 กิโลกรัม เพราะทาง Ducati ได้ปรับแต่งตัวเครื่องยนต์ โดยใช้วัสดุจากไทเทเนี่ยมแทน ไม่ว่าจะเป็นก้านลูกสูบไทเทเนียม เบากว่าเดิมถึงก้านละ 100 กรัม (4 สูบ 400 กรัม) แคร้งแบบใหม่ เบากว่าเดิม 1.1 กิโลกรัม รวมไปถึงหัวลูกสูบฟอร์จ แคมชาร์ฟแบบใหม่, ปั้มน้ำมันเครื่อง, ตัวปั่นไฟที่เบาขึ้น ทำให้ตัวรถมีน้ำหนักเบายิ่งขึ้น

แต่หากนี่ยังเบาไม่พอ ต้องบอกก่อนว่าตัวรถ V4R เป็นรถสำหรับวิ่งถนนจริง ทำให้ต้องทำให้รถผ่านค่ามาตรฐานไอเสีย Euro 4 แต่ถ้าหากต้องการรีดน้ำหนักตัวรถให้เบาเหลือเพียง 165 กิโลกรัม เพียงนำรถไปเปลี่ยนท่อไอเสียเป็นท่อฟูลไทเทเนียม, ถอดกระจก, ถอดหางติดป้ายทะเบียน, เพียงเท่านี้ก็จะได้รถน้ำหนัก 165 กิโลกรัมที่มีกำลังสูงสุดถึง 234 แรงม้า 

ทางด้านระบบไฟฟ้า มีการเพิ่มเติมลูกเล่นใหม่ๆ เข้าไป 2 ตัวคือโหมด Pitlane จำกัดความเร็วการวิ่งในพิท และนาฬิกาจับเวลาต่อรอบสนาม 

ราคาวางจำหน่ายในไทย?

สำหรับ Ducati Panigale V4R เป็นรถที่ "นำเข้าจากต่างประเทศทั้งคัน" แตกต่างจาก Ducati Panigale V4 และ Ducati Panigale V4S ซึ่งเป็นรถที่ประกอบในประเทศไทยบ้านเรา ซึ่งถ้าให้คาดการถึงราคาของ Ducati Panigale V4R โดยวิเคราะห์จากราคาในต่างประเทศ Ducati Panigale V4R มีราคาแพงกว่า Ducati Panigale V4S ถึง 2 เท่า ซึ่งตอนนี้มีราคาวางจำหน่ายหน้าโชว์รูมอยู่ที่ 1,169,000 บาท อีกทั้ง Panigale V4R เป็นรถนำเข้าจากต่างประเทศทั้งคัน ซึ่งอาจจะโดนเรื่องของภาษีนำเข้าเพิ่มเติมด้วย อาจจะทำให้ราคาค่าตัวนั้นขยับขึ้นไปอีก

อย่างไรก็ตาม สำหรับการเปิดตัว Ducati Panigale V4R จะทำการเปิดตัวในวันอังคารที่ 26 มีนาคมนี้ และสามารถชมตัวจริงได้ในงาน Motor show 2019 ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคมเป็นต้นไป ที่อิมแพค เมืองทองธานีครับ

เช็คราคารถใหม่ และโปรโมชั่น ได้ที่นี่ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
มาร่วมแชร์ความเห็นของคุณบนเวบบอร์ด Autospinn คลิกที่นี่