Mitsubishi ห่วงค่าบาทแข็ง-ค่าแรงเพิ่ม กระทบส่งออกและเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง

มิตซูบิชิ พร้อมเดินหน้าโรงงานผลิตรถ PHEV เดือนเมษายน 2563 คาดเปิดโมเดลแรกใน 1 ปี ด้านภาพรวมเศรษฐกิจไทย ห่วงค่าบาทแข็ง-ค่าแรงเพิ่ม กระทบส่งออกและเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง

โมริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า  ในช่วงครึ่งปีแรก สถานการณ์การส่งออกตลาดรวมรถยนต์ลดลง ปัจจัยอาจเกิดจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ค่าเงินบาทที่แข็งค่า แนวโน้มการปรับเพิ่มค่าแรง เนื่องจากขณะที่มีการหาเสียงแต่ละพรรคได้ระบุว่า จะให้ขึ้นค่าแรง ขณะที่อุตสาหกรรมยานยนต์ปกติมีการปรับขึ้นค่าแรงทุกปีเฉลี่ยปีละ 6-7% ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ

“หากมีการปรับเพิ่มค่าแรงจริงควรเพิ่มอย่างมีเสถียรภาพ และมิตซูบิชิจะต้องบริหารจัดการ ส่วนตัวคาดว่ารัฐบาลคงไม่ประกาศขึ้นค่าแรงงานรวดเดียว แต่จะค่อยๆปรับ เพื่อให้ทุกอุตสาหกรรมปรับตัว และเชื่อว่าไทยยังมีศักยภาพในการแข่งขัน”

จากการเปิดตัว มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต บริษัทได้ตั้งเป้ายอดขาย มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ตใหม่ ไว้เดือนละ 1,300-1,400 คัน ซึ่งจากราคาที่เพิ่มขึ้นไม่มากน่าจะช่วยให้มาร์เก็ตแชร์เซกเมนต์นี้ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่า 21% ขณะที่ยอดขายรวมครึ่งปีของมิตซูบิชิอยู่ที่ 45,000 คัน เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปีก่อน คาดว่าทั้งปีจะมึยอดขายอยู่ที่ 93,000-94,000 คัน ส่วนยอดส่งออกรวมมิตซูบิชิเพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับปีก่อน อยู่ที่ 178,000 คัน ส่วนภาพรวมตลาดรถปิกอัพ พบว่า ความต้องการรถปิกอัพรวมอยู่ที่ 43% ครึ่งปีที่ผ่านมาประมาณมียอดขายอยู่ที่ 225,000 คัน หรือเติบโตขึ้น 9% เมื่อเทียบกับปีก่อน

อย่างไรก็ตาม หลังจากได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอแล้ว มิตซูบิชิจะเริ่มกระบวนการผลิตรถปลั๊กอินไฮบริด(PHEV ) ที่โรงงานแหลมฉบังได้เดือนเมษายน 2562 และใช้เวลาประมาณ 1 ปีที่จะเปิดตัวในตลาด คาดเปิดโมเดลแรก “เอาต์แลนเดอร์”

เช็คราคารถใหม่ และโปรโมชั่น ได้ที่นี่ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
มาร่วมแชร์ความเห็นของคุณบนเวบบอร์ด Autospinn คลิกที่นี่