Mercedes-Benz SUV Driving Events รถหรูก็ลุยได้ Share this
รีวิวรถยนต์
โหมดการอ่าน

Mercedes-Benz SUV Driving Events รถหรูก็ลุยได้

วรัญญู ยอดพรหม
โพสต์เมื่อ 01 September 2563

 

     หลายท่านที่มีรถ เมอร์เซเดส-เบนซ์ แต่ก็อาจจะไม่เคยได้ใช้ประสิทธิภาพของตัวรถอย่างเต็มที่ เพราะด้วยหลายเหตุผลด้วยกัน แต่ที่แน่ๆ การที่จะนำรถราคาหลายล้านมาลุยนั้นก็อาจจะไม่มีใครทำกัน แต่เพื่อแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของรถในกลุ่ม GL จึงได้เกิดกิจกรรมนี้ขึ้น


Mercedes-Benz SUV Driving Events


     Mercedes-Benz SUV Driving Events หนึ่งในกิจกรรมรูปแบบใหม่ที่เปิดประสบการณ์การขับขี่รถยนต์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ในแบบที่หลายท่านไม่เคยเห็นมาก่อน  รถหรูระดับนี้ นั้นสามารถนำมาขับลุยได้ รวมถึงได้ทดลองสมรรถนะในระบบต่างๆ ที่ทีมวิศวกรได้ใส่เอาไว้ให้กับรถ ที่หลายท่านอาจจะยังไม่รู้ กิจกรรมกับทางเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่จัดขึ้นในแต่ละครั้งนั้นไม่เคยทำให้ผิดหวัง จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง 


    Mercedes-Benz นั้นมีรถอยู่หลายกลุ่ม แต่ในกลุ่มที่ได้รับความนิยมมากและมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องคือ ตระกูลรถอเนกประสงค์  ก็จะเป็นรถที่ขึ้นต้นด้วย GL ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น GLA, GLB, GLC ,GLE จนไปถึง GLS นั่นเลย ในเมื่อรถเป็นแบบอเนกประสงค์ SUV ก็ต้องลุยได้สิ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เลยจัดงาน Mercedes-Benz SUV Driving Events ขึ้นมา เพื่อให้เห็นกันไปเลยว่า เบนซ์ ก็ลุยได้ 


   สถานที่ในการจัดกิจกรรม Mercedes-Benz SUV Driving Events ครั้งนี้ที่ Grand Prix Motor Park ที่จังหวัดกาญจนบุรี  มีสนามให้ทดสอบได้ 3 รูปแบบ คือสถานี 

  •  4x4 Adventure จุดทดสอบนี้เป็นการขับลุยเส้นทางธรรมชาติจริงๆ ด้วยการขับเข้าป่าการลุยป่าจริง ระยะทางประมาณ 4.5 กิโลเมตร ให้สัมผัสกับบรรยากาศจริงที่จะเจอได้กับการขับลุยป่าทั่วไป 
  • Off-Road ที่จำลองของอุปสรรคในป่าที่อาจเกิดขึ้นได้จริง เช่น วิ่งผ่านหลุมใหญ่, วิ่งลุยน้ำ, วิ่งขึ้นลงเขา , เนินเอียง เป็นต้น สนามต่อมาคือ
  •  Cross Country ที่เป็นสนามความเร็วสูงอารมณ์วิ่งแรลลี่ กับพื้นที่เป็นหินกรวดลื่นไถลได้ตลอดทาง คอสะพานต่างๆ

เริ่มการทดสอบกับ Mercedes-Benz SUV Driving Events

   เริ่มกับสถานีแรกกับ สถานี 4x4 Adventure เส้นทางธรรมชาติ กับเส้นทางธรรมชาติระยะทาง 4.5 กิโลเมตร รถที่ใช้ในการทดสอบ Mercedes-Benz GLC 300 e 4Matic AMG Dynamic ที่ใช้ขุมพลังจากเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร 4 สูบ พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า ที่ให้กำลังได้สูงสุด 320 แรงม้า ขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9G-Tronic ในราคาค่าตัว 3,749,000 บาท สถานที่ทดสอบเป็นป่าจริง ทางดินล้อมรอบด้วยต้นไม้ใหญ่เล็ก เป็นทางเนินดินขึ้นลงเป็นระยะ การทดสอบมีรถนำทางเพื่อเส้นทางที่ถูกต้อง GLC 300 e มีความนุ่นสบายในเส้นทาง และเมื่อรถต้องไต่เนินสูงและมองไม่เห็นทาง กล้องรอบรถ ก็ทำหน้าที่ได้ดีทำให้สามารถเห็นเส้นทางได้ด้วยการมองผ่านกล้อง เส้นทางขับขี่ได้อย่างง่ายดาย (ฝนไม่ตก) 


   สถานีที่สอง Off-Road  โดยในสถานีนี้จะถูกแบ่งย่อยออกไปอีก ในสถานีนี้ ทีมงานได้ขับทดสอบ Mercedes-benz GLE 350 d 4MATIC Coupe AMG Dynamic  เครื่องยนต์ดีเซลแบบ V6 พิกัด 3.0 ลิตร กำลังสูงสุดได้ถึง 258 แรงม้า พร้อมแรงบิด 620 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด (9G-Tronic) แบบ Direct Select ค่าตัว 6,990,000 บาท อาจจะเป็นโมเดลปลายแล้วแต่ระบบต่างๆก็เพรียบพร้อมในการใช้งานบนเส้นทาง ออฟโรด 

มาเริ่มกันสถานี แรกก่อนเลยกับหลุมสลับ ซึ่งเส้นทางเป็นทางปูนที่มีหลุมขนาดใหญ่สลับซ้าย-ขวากันไปเรื่อย ๆ ซึ่งผู้ออกแบบตั้งใจให้ล้อมีการลอยขึ้น 1 ล้อ แต่ในบางจังหวะจะมีลอย 2 ล้อ   เพื่อดูระบบการทำงานของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อว่าทำงานได้ดีอย่างไร ถือว่าผ่านได้อย่างง่ายดายด้วยตัวรถที่สามารถยกสูงกว่าปกติได้เพื่อเส้นทางออฟโรดโดยเฉพาะ พร้อมระบบขับสี่ที่ทำงานแบบอัตโนมัติ มือล้อไหนลอยขึ้นระบบส่งกำลังจะส่งกำลังไปที่ล้อที่ยังจับกับพื้นถนนอยู่ ผู้ขับเพียงแค่เดินคันเร่งเบาๆรถก็จะผ่านไปได้อย่างง่ายดาย 

สถานีย่อยต่อมากับการลุยในบ่อน้ำ สูงประมาณ 50 ซม. ก็ไม่ยากอะไรนัก ด้วยตัวรถที่มีความสูง แต่มองไปที่รถนำอย่าง GLC43Coupe  ด้วยตัวรถที่มีความสูงน้อยกว่า ทำให้ผ่านอุปสรรคได้ยากกว่าชัดเจน  ต่อกับสถานีวิ่งบนท่อนซุง ที่เรียงรายนอนขวางเส้นทางอยู่ เพื่อทดสอบระบบการทำงานของช่วงล่าง ว่าจะทำได้นุ่มนวลขนาดไหน พร้อมอาการโค้งของรถนั้น เป็นอย่างไรบ้าง GLE นั้นผ่านไปได้อย่างง่ายดาย ช่วงล่างทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาการโค้งเล็กน้อย 

 

ต่อด้วยสถานีย่อยบนพื้นเอียง แต่เพิ่มความยากตรงมี  Slalom ด้วย ให้รถเราวิ่งสลับไปมาซ้าย-ขวา บางจังหวะที่รถจะลอย 2 ล้อแน่นอน แต่ด้วยระบบการจัดการขับเคลื่อน 4 ล้อ 4Matic ที่มาใน Mercedes-Benz มันทำให้เรื่องง่าย ระบบจะทำงานแบบ ดิฟล็อคไฟฟ้าอัตโนมัติ ผู้ขับขี่แค่เดินคันเร่งเบาๆระบบจะจัดการทั้งหมดเอง 

สถานีต่อมา กับการขึ้นลงทางลาดชัน โดยขึ้น 2 รอบ รอบแรกเป็นการขึ้นทางปูน รอบ 2 กลับมาขึ้นทางหญ้าที่มีความลื่นเป็นพิเศษ โดยสถานีนี้ ทาง Instructor ให้ทำการปิดระบบ Traction Control เพื่อป้องกันไม่ให้รถตัดการทำงานของเครื่องยนต์เมื่อล้อมีอาการลื่นในช่วงที่กำลังต้องการพลังงานของเครื่องยนต์ช่วงไต่เขา ด้วยพื้นที่เอียงระดับ 40 องศา มันจะทำให้เราเห็นแต่ท้องฟ้า ไม่เห็นพื้นที่เราจะวิ่งไปเลย แต่เรื่องนี้ไม่มีปัญหาเพราะเราสามารถเปิดกล้อง 360 องศา เราก็จะเห็นทุกอย่างรอบรถ 

   

  สถานีสุดท้าย ในรูปแบบ Cross Country เส้นทางยาว 3 กม. เป็นทางดินที่มีหินก้อนเล็ก-ใหญ่เรียงรายอยู่ตลอดเส้นทาง ผสมกับฝุ่นแดง เป็นการทดสอบเรียกได้ว่าโหดสุดในสนามก็ว่าได้ เพื่อทดสอบให้เห็นถึง  Performance ของ Mercedes-Benz ว่าทำอะไรได้บ้างในสภาพถนนแบบนี้ รถที่ใช้ในการทดสอบ มี 3 รุ่น Mercedes-Benz GLC 200 d , Mercedes-Benz GLA 250 และไฮไลท์อยู่ที่  Mercedes-Benz GLB 200 Progressive ที่ใช้ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตร 4 สูบ 163 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7G-DTC ราคา 2,860,000 บาท เรียกได้ว่ายังไม่เห็นตามท้องถนนกันเลยแต่ก็ได้รับเกียรติมาลุยฝุ่นกันก่อนเลย 

 

เริ่มการทดสอบ สำหรับการนำรถที่มีทั้งระบบขับเคลื่อนทั้ง ขับหน้ากับขับหลัง มาวิ่งนั้นเพื่อให้เห็นความแต่งต่างกันว่าแบบไหนจะควบคุมได้ง่ายกว่าและขับสนุกกว่า และเพื่อเพิ่มทักษะในการขับขี่  สถานีนี้ทำการปิด ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ หรือ ESP เพื่อดูอาการตัวรถว่าจะเป็นอย่างไรเมื่อเสียอาการ

เริ่มคันแรกกับ Mercedes-Benz GLA 250 ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า รอบแรกนั่งกับ Instructor เพื่อดูเส้นทาง รอบขับจริง กดคันเร่งออกอย่างเร็วล้อฟรีตลอดเวลาเพราะปิดระบบ ถึงโค้งแรกสาดโค้งตัวรถขวางออกไปด้านข้างแต่ด้วยเป็นรถขับหน้า ตัวรถจะออกอาการหน้าดือมากกว่าคือเลี้ยวไม่ได้ เดินคันเร่งต่อพร้อมหมุนพวงมาลัยย้อนกับถนนเพื่อให้รถกลับเข้าเส้นทาง โค้งต่อมาเข้าแรงไปตัวรถออกนอกเลนพร้อมกับขวางเยอะขึ้น ด้วยความฉลาดของระบบตัวรถแก้ไขให้รถสามารถกลับเข้ามาอยู่ในเลนอีกครั้ง ซึ่งจุดนี้ เราได้ปิดระบบ ESP ไปแล้ว จึงถาม Instructor คำตอบคือ ถึงแม้ว่าเราจะปิดระบบแล้วก็ตามแต่ตัวรถนั้นก็ยังแอบช่วยอยู่ดีในสภาวะที่ตัวรถคำนวณได้ว่าเสียอาการมากเกิน หรืออีกในนึงคือระบบจะยอมปิด 80% เพื่อความปลอดภัยนั้นเอง


เปลี่ยนคันกับรถไฮไลท์ Mercedes-Benz GLB 200 Progressive ภายในห้องโดยสารดูทันสมัยกว่า GLA มาก ออกตัว รถมีช่วงล่างที่นุ่มนวลกว่า แต่ในสภาพพื้นผิวที่มีหินมากทำให้ตัวรถเกิดการกระแทกมากกว่า สาดโค้งท้ายออกมากกว่า GLA เพราะตัวรถที่มีท้ายยาวกว่า แม้ว่าจะเป็นขับหน้าเหมือนกัน ทำให้รู้สึกได้ว่าขับขี่ได้สนุกกว่า เราได้ทดสอบโดยการเข้าโค้งแรงเพื่อให้รถเสียอาการเช่นเดียวกัน แต่ที่ GLB ทำได้ดีกว่าคือระบบ ESP นั้น แอบทำงานได้เนียนกว่ามาก ทำให้การขับขี่ในสภาวะรถเสียอาการนั้น GLB จึงทำออกมาได้ดีกว่า  


หมดรอบเปลี่ยนคันต่อด้วย GLC 200 d อาวววววว ยางจ๋าพี่ลาก่อน ยางหลังแตกออกมาเป็นชิ้น หมดรอบ แน่นอนครับด้วยสภาพถนนที่มีหินก้อนเล็กและใหญ่ทั่งสนาม ทำให้ยางในแบบนุ่นเงียบไม่สามารถทนต่อสภาพถนนได้ และยิ่งรถขับหลังที่มีแรงบิดระดับ 400 นิวตันเมตร พร้อมการขับขี่จนมาถึงรอบท้าย


สรุป กับกิจกรรม Mercedes-Benz SUV Driving Events 


     คงมีโอกาศไม่มากนักที่จะได้ทดสอบ รถในระดับ Mercedes-Benz กลุ่ม SUV อเนกประสงค์ แบบจัดเต็มขนาดนี้ เรียกว่าขับกันเกินรถ แต่ก็แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของตัวรถว่าทำอะไรได้บ้างและสามารถบอกกับผู้ใช้งานได้ว่าระบบที่มีให้ท่านนั้น ช่วยเหลือได้จริงในสภาวะคับขัน เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเส้นทางที่เราออกเดินทางนั้นจะเป็นอย่างไรบ้าง หรือแม้แต่น้ำท่วมในเมืองก็เป็นอีกอย่างที่หลายท่านกังวล  เพราะในชีวิตจริงส่วนใหญ่รถในกลุ่ม GL นั้นหลายท่านที่มองหาก็เพียงแค่ต้องการรถอเนกประสงค์ ใช้งานได้หลากหลาย แน่นอนว่าถ้าเป็นรถในกลุ่มที่มีระบบ 4x4 นั้นจะสามารถลุยได้มากกว่าแต่ในกลุ่มรถเล็กนั้นสามารถลุยได้บ้างแต่ก็ไม่สามารถลุยหนักได้ รถทุกคันสร้างมาเพื่อการใช้งานที่ต่างกัน


      แต่สิ่งที่บอกได้อย่างนึงสำหรับรถเล็กอย่าง GLA,GLB คือความปลอดภัยที่ทาง Mercedes-Benz ให้มากับการทดสอบในสนาม Cross Country พร้อมปิดระบบ ESP ถ้าเกิดในสถานะการจริงเช่นผิวถนนที่ลื่นเจอทรายในทางโค้งต่างๆและคุณไม่ได้มีทักษะในการควบคุมรถมากนัก คุณจะมั่นใจได้กับระบบช่วยเหลือของตัวรถ “แต่ถ้าความเร็วเกินหรือประมาทระบบอะไรก็ช่วยไม่ได้

ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn
แชร์ความคิดเห็นบนเว็บบอร์ด Autospinn คลิกเลย webboard.autospinn.com  
เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ เช็คราคารถใหม่ ได้ที่นี่ 
ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car


คำนวณค่างวดรถเบื้องต้น
Use the calculator to calculate the installment of your dream car
ระยะเวลาผ่อนชำระ (เดือน)
* ราคาค่างวดรวม VAT แล้ว สำหรับพิจารณาข้อมูลเบื้องต้น ไม่สามารถนำไปอ้างอิงในการซื้อขายได้
อัตราการผ่อนชำระ (เดือน)
บาท
จำนวนงวด (เดือน)
สนใจขอสินเชื่อรุ่นนี้
* ราคาค่างวดรวม VAT แล้ว สำหรับพิจารณาข้อมูลเบื้องต้น ไม่สามารถนำไปอ้างอิงในการซื้อขายได้

ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ