เปิดตัว Audi e-tron GT สามรุ่น ราคา 6.39 - 9.49 ล้านบาท Share this
รถเปิดตัวใหม่
โหมดการอ่าน

เปิดตัว Audi e-tron GT สามรุ่น ราคา 6.39 - 9.49 ล้านบาท

Champ Autospinn
โพสต์เมื่อ 18 March 2564

อาวดี้เปิดตัว The New Audi e-tron GT 3 รุ่น เจ้าแรกในเอเชีย ตอกย้ำทิศทางของโลกยนตรกรรมในอนาคต มั่นใจตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า


รับชมรูปแบบวีดีโอได้ที่นี่

อาวดี้ ประเทศไทย นำ The New Audi e-tron GT มาเปิดตัวเป็นประเทศแรกในเอเชีย และเป็น 1 ในกลุ่มแรกของโลกที่ได้นำรถเข้ามาเปิดตัวก่อนใคร ถือเป็นก้าวสำคัญของ Audi ในการปรับเปลี่ยนทิศทางของโลกยนตรกรรมในอนาคต (Shaping the future of mobility) โดย The New Audi e-tron GT เป็นยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นที่ 3 ผลิตจากโรงงาน Böllinger Höfe ประเทศเยอรมัน ซึ่งเป็นโรงงาน Carbon-Neutral ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

Audi RS e-tron GT quattro ราคา 9,490,000 บาท

เริ่มกันที่พระเอกของงานนี้ นั่นก็คือรุ่น Audi RS e-tron GT quattro ซึ่งเป็นรุ่นท๊อปสุด เป็นยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าที่มีความโดดเด่นด้านดีไซน์ โดยมีความสมบูรณ์แบบ สวยงาม โฉบเฉี่ยว สปอร์ตทั้งภายนอกและภายใน ด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ผสมผสานดีไซน์ ฟังก์ชั่น และความสปอร์ตได้อย่างลงตัว ล้อ 21 นิ้ว ลายพิเศษ ดิสก์เบรกหน้า-หลังเคลือบทังสเตนคาร์ไบด์ (Tungsten Carbide) พร้อมคาลิเปอร์เบรกสีแดง ชุดตกแต่งภายนอกแบบ Black package พร้อมตกแต่งกระจกมองข้างด้วยสีดำ และตกแต่งกระจังหน้าด้วยสี Glossy black พื้นที่เก็บสัมภาระกว้างขวาง โดยด้านหน้าความจุ 85 ลิตร ด้านหลัง 350 ลิตร

Audi RS e-tron GT quattro ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตำแหน่ง ให้พละกำลังสูงถึง 646 แรงม้า ใน Boost Mode แรงบิดสูงสุด 830 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 3.3 วินาที ใน Boost Mode ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. สามารถขับได้ไกลถึง 504 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (ทดสอบตามมาตรฐาน NEDC)

Audi RS e-tron GT quattro ได้รับการออกแบบภายในตามแบบฉบับของ Audi Sport ที่มีการจัดวางตำแหน่งที่นั่งภายในห้องโดยสารอันชาญฉลาด ส่งผลให้พื้นที่ในห้องโดยสารกว้างขวางและนั่งได้อย่างสะดวกสบาย ห้องโดยสารตกแต่งด้วยลาย Matte Carbon Twill ด้านข้างของคอนโซลตรงกลางหุ้มหนัง Alcantara สีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง ทำให้ดูสวยดุดัน และสปอร์ตเพิ่มขึ้น ที่วางแขนข้างประตูหุ้มหนัง Fine Nappa ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง เอกลักษณ์โดดเด่นแสดงให้เห็นความสปอร์ตด้วยสายเข็มขัดนิรภัยสีแดงล้วน พรมในห้องโดยสารด้านหน้าสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง เบาะนั่งคู่หน้าแบบ Sports Pro ตกแต่งแบบ Honeycomb พร้อมฟังก์ชั่นระบายอากาศ และนวดเพื่อการผ่อนคลาย สำหรับเบาะนั่งคู่หน้า พวงมาลัยไฟฟ้า พร้อมมัลติฟังก์ชั่นทรงสปอร์ตท้ายตัดหุ้มหนัง Alcantara พร้อมสัญลักษณ์ RS เพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้ขับขี่ด้วยระบบแสดงข้อมูล Head-up display ภายในที่กว้างขวางตามแบบฉบับของ Audi Sport เต็มเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพอันทรงพลัง และสมรรถนะอันเร้าใจ พร้อมความสะดวกสบายตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวัน โดย The New RS e-tron GT quattro เปิดตัวในราคาสุดเร้าใจเพียง 9,490,000 บาท

Audi e-tron GT quattro ราคา 6,390,000 บาท

ในส่วนของรุ่นเริ่มต้น Audi e-tron GT quattro ราคา 6,390,000 บาท มาพร้อมกับระบบ electric quattro ที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ การทรงตัว และออกตัวในลักษณะเร่งแซงมีประสิทธิภาพ สร้างความสนุกสนานในการขับขี่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ก้าวล้ำกับนวัตกรรมไฟหน้า Matrix LED with Laser light ลำแสงคมชัด ทัศนวิสัยกว้างไกล ซึ่งให้ระยะการส่องสว่างของไฟสูงได้ไกลกว่าไฟ LED ถึงสองเท่า สามารถลดการกระจายแสงรบกวนแก่เพื่อนร่วมทาง ทั้งรถที่สวนทางและรถคันที่อยู่ด้านหน้า ส่งผลทำให้ผู้ขับขี่ได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น ขณะที่ไฟท้ายแบบ LED เช่นกัน พร้อมเอฟเฟกต์ Light staging เมื่อปลดล็อครถ

หลังคาพาโนรามิคช่วยให้แสงเข้าสู่ตัวรถได้มากขึ้น เสริมสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารให้ดูสว่างและกว้างขวางมากขึ้น อีกทั้งหลังคาพาโนรามิคได้ผสานเทคโนโลยีอันทันสมัยในการกรองแสง ช่วยป้องกันความร้อนจากแสงแดดเข้าสู่ภายในห้องโดยสารได้เป็นอย่างดี โดยมาพร้อมล้อขนาด 20 นิ้ว ดิสก์เบรกสี่ล้อพร้อมคาลิเปอร์เบรกสีดำ

ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตำแหน่ง กำลังสูงสุด 530 แรงม้า ใน Boost Mode แรงบิดสูงสุด 630 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 4.1 วินาที ใน Boost Mode สามารถทำความเร็วสูงสุด 245 กม./ชม. แบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูงลิเธียมไอออน ความจุ 93.4 กิโลวัตต์ ทำให้ขับได้กว่า 540 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐานการทดสอบแบบ NEDC)

ใช้เทคโนโลยี e-sound สร้างเสียงสังเคราะห์ e-tron แบบ Sports เพื่อเพิ่มความสุนทรียภาพในการขับขี่ทุกเส้นทาง สะท้อนความก้าวล้ำทางเทคโนโลยี  ที่ยกระดับให้ความสนุกสนานในการขับรถไฟฟ้าอย่างสมบูรณ์แบบ

The New Audi e-tron GT ยังมาพร้อมเทคโนโลยีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ทั้งระบบแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกเลน ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตาเมื่อเปลี่ยนเลน ระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านหน้ารถเมื่ออยู่ทางแยก ระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านข้างและด้านท้ายรถเมื่อจะเปิดประตูลงจากรถ ระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านข้างและด้านท้ายรถเมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง

The New Audi e-tron ได้รับการพัฒนาโดยระบบการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ (recuperation) อย่างชาญฉลาด 2 รูปแบบ คือ จากการปล่อยให้รถวิ่งในลักษณะลอยตัวและการถอนเท้าออกจากคันเร่ง เพื่อผู้ขับขี่สามารถเดินทางในระยะทางที่มากกว่าเดิม ยิ่งไปกว่านั้นผู้ขับขี่ยังสามารถเลือกตั้งระดับการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ โดยผ่านฟังก์ชั่น Predictive efficiency assist (PEA) ในระบบ MMI 

ภายในตกแต่งแบบสปอร์ต ด้วยพวงมาลัยไฟฟ้าแบบ Optimized Progressive แบบมัลติฟังก์ชั่น สปอร์ตท้ายตัด หุ้มหนัง หน้าจอ Virtual cockpit plus ขนาด 12.3 นิ้ว แสดงผลมาตรวัดความเร็วและรอบเครื่อง พร้อมติดตั้งระบบ Cruise control ระบบ MMI Navigation plus พร้อมหน้าจอแบบสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว ติดตั้งพร้อม ระบบ Audi smartphone interface และรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth ทางอาวดี้ติดตั้งช่อง USB-C สำหรับห้องโดยสารด้านหน้า 2 ตำแหน่ง และ USB สำหรับห้องโดยสารด้านหลัง 2 ตำแหน่ง เพื่อรับรองความต้องการของผู้ใช้งานอย่างเต็มที่ จัดเต็มด้วยระบบเครื่องเสียงระดับพรีเมียม Bang & Olufsen แบบ 3 มิติ พร้อมไฟเรืองแสงในห้องโดยสาร 30 สี เบาะนั่งคู่หน้าแบบ Sports ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ ควบคุมอุณหภูมิแยกอิสระ 3 โซน ความจุของพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหน้า 85 ลิตร ด้านหลัง 405 ลิตร เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าอย่างแน่นอน e-tron GT quattro เปิดตัวในราคาเพียง 6,390,000 บาท

Audi e-tron GT quattro Performance ราคา 6,790,000 บาท

Audi e-tron GT quattro Performance ในรุ่นนี้ ได้รับการตกแต่งอุปกรณ์เพิ่มเติมจากรุ่น e-tron GT quattro อีก 3 รายการ คือ ขนาดล้อที่ใหญ่ขึ้นเป็นขนาด 21 นิ้ว เพิ่ม On board charger (AC) สามารถรองรับการชาร์จกำลังไฟ AC ได้สูงสุดถึง 22 KW จากรุ่นปกติที่รองรับการชาร์จกำลังไฟ AC ได้ 11 KW ส่งผลใช้เวลาในการชาร์จแบบ AC สั้นลงเหลือเพียงประมาณ 5 ชั่วโมง 15 นาทีเท่านั้น ดิสก์เบรกหน้า-หลังเคลือบทังสเตนคาร์ไบด์ (Tungsten Carbide) พร้อมคาลิเปอร์เบรกสีส้ม ช่วยลดการเกิดสนิมและฝุ่นบนจานเบรก และยังช่วยระบายความร้อนของจานเบรกได้ดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งยืดอายุการใช้งานของเบรกได้ยาวนานกว่าระบบเบรกแบบสตีล (steel) ถึง 30% ระยะทางขับเคลื่อนต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้งอยู่ที่ 523 กิโลเมตร (ตามมาตรฐานการทดสอบแบบ NEDC)

มีสี มีให้เลือกทั้งหมด 9 สี

  • สีขาว Ibis White Solid
  • สีเงิน Floret Silver Metallic
  • สีดำ Mythos Black Metallic
  • สีเทา Daytona Grey Pearl Effect
  • สีเทา Kemora Grey Metallic
  • สีเทา Suzuka Grey Metallic
  • สีแดง Tango Red Metallic
  • สีน้ำเงิน Ascari Blue Metallic
  • สีเขียวเหลือง Tactics Green Metallic

คำนวณค่างวดรถเบื้องต้น
Use the calculator to calculate the installment of your dream car
ระยะเวลาผ่อนชำระ (เดือน)
* ราคาค่างวดรวม VAT แล้ว สำหรับพิจารณาข้อมูลเบื้องต้น ไม่สามารถนำไปอ้างอิงในการซื้อขายได้
อัตราการผ่อนชำระ (เดือน)
บาท
จำนวนงวด (เดือน)
สนใจขอสินเชื่อรุ่นนี้
* ราคาค่างวดรวม VAT แล้ว สำหรับพิจารณาข้อมูลเบื้องต้น ไม่สามารถนำไปอ้างอิงในการซื้อขายได้

ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ