เปรียบเทียบ Toyota bZ4X vs Tesla Model Y

คอนเฟิร์มแล้ว Toyota bZ4X จะเปิดจำหน่ายในประเทศไทยช่วงปลายปี 2022 นี้อย่างแน่นอน เรามาทำความรู้จักกันครับว่าเจ้ารถยนต์ไฟฟ้า 100% จาก Toyota คันนี้ หากเปรียบเทียบกับรถในฝันหลายๆ คนอย่าง Tesla Model Y จะเป็นอย่างไร

Toyota bZ4X vs Tesla Model Y

Toyota bZ4X รถยนต์ SUV ไฟฟ้าที่จะเดินสายการผลิตอย่างเป็นทางการรุ่นแรกของ Toyota เตรียมเปิดให้จับจองอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ภายในปี 2565 อย่างแน่นอน โดยทาง Toyota ประเทศไทยคอนเฟิร์มแล้วว่า ราคาวางจำหน่ายของรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ในประเทศไทย ไม่เกิน 2 ล้านบาท ซึ่งเจ้ารถคันนี้มีแผนเข้ามาผลิตในประเทศไทยด้วย

โดยพิกัดตัวของ Toyota bZ4X อยู่ในไซส์ของรถยนต์ C-SUV ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้าพิกัดนี้ประกอบด้วย Mercedes-Benz EQC, BMW iX3, Hyundai IONIQ 5 และ Tesla Model Y

Tesla Model Y 2022 รถยนต์นั่งแบบ SUV รุ่นรองลงมาจากรุ่นพี่อย่าง Tesla Model X โดยเจ้า Model Y โดดเด่นด้วยความเป็นรถยนต์นั่งตัวถังแบบ Crossover 5 ประตู ที่มีขนาดกระทัดรัดมากกว่ารุ่นพี่ และที่สำคัญเลยคือราคาที่ถูกกว่ารุ่นพี่กว่าเท่าตัว ทำให้มันเป็นรถที่มีราคาเข้าถึงได้ง่ายขึ้น โดยในต่างประเทศ เจ้า Tesla Model Y มีราคาเริ่มต้นอยู่ในระดับเดียวกับ BMW X3 Series, Mercedes-Benz GLC Class

เปรียบเทียบ bZ4X กับ Tesla Model Y

ราคาวางจำหน่ายของ Toyota bZ4X รุ่นท็อป ในต่างประเทศ มีราคาวางจำหน่าย "ถูกกว่า" Tesla Model Y Long Range อยู่ราว 1 แสนบาทเท่านั้น ทว่าเจ้า Tesla Model Y ในประเทศไทย กลับมีราคาวางจำหน่าย "ในระดับเดียวกับ" รถยนต์สันดาปแบรนด์ยุโรปเลย ซึ่งเกิดจากมาตรการทางด้านภาษีรถยนต์ของประเทศไทยที่ "โหด" เอาการ

จุดประสงค์ของบทความนี้ จัดทำขึ้นเพื่อให้เป็นข้อมูลเชิงเปรียบเทียบเท่านั้น

มอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอร์รี่

เริ่มต้นด้วยหัวใจสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้ากับขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้า Toyota bZ4X AWD รุ่นท็อป ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อม X-Mode สำหรับการขับขี่ในเส้นทางออฟโรด มอบพละกำลังสูงสุด 214 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 336 นิวตันเมตร อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. อยู่ที่ 6.5 วินาที แบตเตอร์รี่ลิเธียมไอออน ความจุ 71.4 kWh รองรับการชาร์จ AC สูงสุด 6.6 kW ส่วน DC กำลังสูงสุด 150 kW โดย 1 ชาร์จ สามารถขับขี่ได้ระยะทางที่ 460 กิโลเมตร

ส่วน Tesla Model Y Long Range ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ขับเคลื่อน 4 ล้อด้วยเช่นกัน แต่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อของ Tesla จะเน้นใช้งานบนทางดำมากกว่ารองรับการขับขี่แบบออฟโรด ด้านพละกำลังสามารถทำได้สูงสุด 441 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 493 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 5 วินาที แบตเตอร์รี่ลิเธียมไอออน ความจุ 75 kWh รองรับการชาร์จ AC สูงสุด 11 kW ส่วน DC กำลังสูงสุด 210 kW

มิติรถ 

ทางด้านช่วงล่างและมิติรถ เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ทางฝั่ง Toyota bZ4X จะเน้นการขับขี่ในหลากหลายรูปแบบกว่า และรองรับการขับในเส้นทางออฟโรดด้วย สังเกตุได้จากเบอร์แก้มยางของตัวรถที่มีความหนามากกว่า มีระยะห่างใต้ท้องมากถึง 210 ซม. ซึ่งเพียงพอสำหรับการขับในเส้นทางที่มีความขรุขระ มีหลุมบ่อบ้างนิดหน่อย หรือตามเส้นทางธรรมชาติในบ้านเรามากกว่า ซึ่งหลายๆ แห่งมักจะมีสภาพถนนที่ไม่ค่อยเรียบเนียนนัก

ส่วนทาง Tesla Model Y แม้จะมาในรูปแบบรถยนต์ SUV แต่เค้าจะเน้นขับขี่บนทางดำซะมากกว่า ดูได้จากซีรี่ย์ยางที่เน้นการขับขี่บนทางดำมากกว่า มาพร้อมกับช่วงล่างที่เน้นการขับบนถนนหลวงมากกว่า และที่สำคัญ "ระยะห่างจากพื้น" ที่ทาง Tesla จะเตี้ยกว่าอย่างชัดเจน

ส่วนสิ่งที่คล้ายกันของรถทั้ง 2 คือ ตัวรถมีขนาดใกล้เคียงกัน

พื้นที่เก็บสัมภาระ

ด้วยความที่ขนาดตัวรถมีความแตกต่างกันพอสมควร ส่งผลให้พื้นที่เก็บสัมภาระภายในตัวรถของ Tesla Model Y มีความจุมากกว่าเกือบเท่าตัว

ระบบความปลอดภัย Toyota bZ4X

Toyota bZ4X  ชูจุดเด่นเรื่องระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense 3.0 ซึ่งมีการอัพเกรดก้าวหน้าไปอีกขั้น ให้สามารถทำงานในสภาวะแสงน้อยได้ดียิ่งขึ้น ประกอบด้วย

1. Adaptive Cruise Control จนถึงจุดหยุดนิ่ง
2. Pre-Collision system
3. Emergency Steering Assist & Road Sign Assist
4. Blind spot monitior
5. Safe exit monitor
6. ระบบช่วยจอดรถอัฉริยะ พร้อมระบบป้องกันการชนวัตถุและคนอัตโนมัติ 
7. Remote control Advanced Parking Assist
8. กล้อง 360 องศา

ระบบความปลอดภัย Tesla Model Y

Tesla Model Y เป็นรถยนต์ที่ทาง Tesla อัดแน่นระบบความปลอดภัยมาเหมือนกับรุ่นพี่ในค่ายทุกประการ เรียกได้ว่าจัดเต็มมาทั้งหมด ประกอบด้วย

1. Autopilot จนถึงจุดหยุดนิ่ง
2. Pre-Collision system
3. Emergency Steering Assist & Road Sign Assist
4. Blind spot monitior
5. ระบบช่วยจอดรถอัฉริยะ
6. Remote control Advanced Parking Assist
7. กล้อง 360 องศา
8. ระบบกล้องวงจรปิดรอบคัน

สรุป Toyota bZ4X AWD กับ Tesla Model Y Long Range

โดยสรุปแล้ว หากเปรียบเทียบรถ 2 รุ่นนี้ "ในประเทศที่วางราคาจำหน่ายเท่ากัน" ซึ่งจะเป็นประเทศที่ทาง Tesla ทำการจำหน่ายด้วยตนเองอย่างเป็นทางการอยู่ ต้องยอมรับว่าฟังก์ชั่นของ Tesla ค่อนข้างเหนือกว่า Toyota bZ4X ในแทบจะทุกๆ ด้าน ทั้งด้านพละกำลัง และการบริหารจัดการพลังงานที่ทาง Tesla ทำได้ดีกว่าอย่างชัดเจน แม้ตัวรถจะจำหน่ายในราคาสูงกว่าเพียงราวๆ 100,000 บาท แต่สิ่งที่ได้มานั้น โดยเฉพาะ "เทคโนโลยี" ต้องยอมรับว่า Tesla เค้าไปไกลมากๆ

กลับกัน หากดูบริบทในประเทศไทย "Tesla มิได้เข้ามาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ" รถยนต์ Tesla ที่เราเห็นนั้น ล้วนเป็นรถจากผู้นำเข้าอิสระทั้งสิ้น ทำให้ราคาวางจำหน่ายของ Tesla Model Y Long Range ในประเทศไทย อยู่ในระดับเดียวกับรถยนต์สันดาปสัญชาติยุโรปเลย (ราว 3.5-4 ล้านบาท +- แล้วแต่ดีลเลอร์ และโปรโมชั่น)

ทว่า Toyota ประเทศไทยยืนยันแล้วว่า ราคาวางจำหน่ายของ Toyota bZ4X จะไม่เกิน 2 ล้านบาทอย่างแน่นอน และนอกจากนี้ ศูนย์บริการของ Toyota มีอยู่ทั่วประเทศไทย และรถรุ่นนี้ได้รับการยืนยันแล้วว่าจะผลิตในประเทศไทยอย่างแน่นอน ทำให้อุ่นใจได้ว่าเรื่องของงานบริการหลังการขายและเรื่อง "อะไหล่" หายห่วงไปได้เลย

ส่วนเรื่องการใช้งาน อันนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลว่าใช้งานรถยนต์ในลักษณะใดครับผม

Tesla Model Y LR vs Toyota bZ4X แบบงบไม่อั้น

ถ้าให้ฟันธงไปเลย ในกรณีคุณอยู่ในกลุ่ม "งบไม่เกี่ยว จัดได้หมด" ต้องบอกว่ารถยนต์ 2 คันนี้ ต่างกันชัดเจนครับ

Tesla Model Y Long Range เป็นรถยนต์ที่มีเทคโนโลยีทันสมัยติดอันดับต้นๆ ของรถยนต์ไฟฟ้าบนโลกใบนี้ครับ โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่มินิมอล พละกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้าที่มหาศาลมากๆ และมีแบตเตอร์รี่ที่มีขนาดใหญ่ มาพร้อมกับระบบจัดการพลังงานที่ชาญฉลาด ทำให้สามารถทำระยะทางขับขี่ได้ค่อนข้างไกล

แต่ข้อเสียหลัก คือ Tesla Motors "ไม่ได้เข้ามาจำหน่ายแบบเป็นทางการ" เป็นการจำหน่ายโดยผู้นำเข้าอิสระ ในกรณีที่รถเกิดอุบัติเหตุ อาจจะเจอปัญหาเรื่องการรอนำเข้าอะไหล่ที่ค่อนข้างนานกว่าปกติ หรือในเคสที่มีปัญหาด้านระบบการทำงานของตัวรถ ถึงขั้นหนักสุดก็คือต้องส่งรถขึ้นเรือกลับไปต้นทาง เพื่อเข้าศูนย์บริการเลยทีเดียว

อีกทั้ง Tesla Model Y LR เป็นรถที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานบนทางดำมากกว่าการไปลุย การนำรถไปลุยทางดินนั้นก็อาจจะพอไปได้ แต่ไม่เหมาะเท่าไหร่ครับ

ส่วน Toyota bZ4X เป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกอย่างเป็นทางการจากโตโยต้า ข้อดีของเค้าหลักๆ สำหรับการใช้งานในบ้านเรานั่นคือ "ศูนย์บริการ" ที่มีอยู่ทั่วประเทศ และที่สำคัญรถยนต์คันนี้ "จะผลิตในประเทศไทย" นั่นหมายความว่าเรื่องงานอะไหล่ และการบริการนั้นหายห่วงไปได้เปราะหนึ่งเลย

ส่วนเรื่องการใช้งาน ก็เรียกได้ว่าตอบโจทย์ชาวไทยไม่น้อย ด้วยช่วงล่างที่ยกสูงขึ้นมาตามสไตล์รถยนต์ SUV โดยเฉพาะในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ มี X-Mode อันเลื่องชื่อจาก Subaru มาให้ใช้งานในทางออฟโรดด้วย เรียกได้ว่าถูกใจสายท่องเที่ยว สายเดินทางกันไม่น้อยแน่นอน

Autospinn เว็บไซต์รายงานข่าวรถยนต์ รถยนต์ไฟฟ้า รถมอเตอร์ไซค์ เช็กวันเปิดตัวรถใหม่ ราคารถ ตารางผ่อน และรีวิวรถยนต์ รถจักรยานยนต์ โดยทีมงานมืออาชีพ
ซื้อ-ขาย รถมือสอง ได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัยชัวร์ ต้องที่ ตลาดรถ One2car