Chery TIGGO8 Pro e+ PHEV เรียบหรู 7 ที่นั่ง

Chery Automobile ประเทศจีน เตรียมแผนจะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยในอีก 1-2 ปี รถในรูปแบบ Cross Over และ Suv ซึ่งรถที่จะนำเข้ามาทำตลาดเป็นรุ่นแรกกับ TIGGO 8 PRO e+ PHEV

TIGGO 8 PRO PHEV

Chery Thailand เตรียมความพร้อมก่อนขายจริงในประเทศไทย โดยนำสื่อมวลชนกลุ่มแรกให้ได้สัมผัสและทดสอบรถจริงก่อนขาย ณ ประเทศมาเลเซีย งาน Chery Malaysia Preview 2022 พร้อมกับสือมวลชนในกลุ่มอาเซียน หลายสำนัก 

การทดสอบทาง Chery ได้จัดรถทดสอบให้ทั้งหมด 3 รุ่น TIGGO 4 PRO, TIGGO 7 PRO, TIGGO 8 PRO และอีกหนึ่งไฮไลท์ที่นำมาโชว์ OMODA 5 โดยรถทั้งหมดนี้อนาคตอาจจะนำเข้ามาจัดจำหน่ายในประเทศไทย เช่นเดียวกัน แต่ที่แน่นอน TIGGO 8 PRO จะเป็นรถรุ่นแรกที่ทาง Chery จะนำเข้ามาจัดจำหน่ายในประเทศไทยแน่นอนและจะเป็นรุ่น  PHEV 

สำหรับการทดสอบ

ทางทีมงานจะเน้นความสำคัญกับ TIGGO 8 PRO เป็นหลัก แต่น่าเสียดายว่ารถที่ใช้ในการทดสอบครั้งนี้เป็นรุ่นเครื่องยนต์สันดาป(ICE) โดยเส้นทางในการทดสอบอาจจะสั้น 3.3km รอบสถานที่ในการจัดงานเท่านั้น 

สำหรับคันจริง TIGGO 8 มองจากภายนอกขนาดไม่ต่างจาก รถในกลุ่ม Honda CR-V , MG HS,Mazda CX-5 และ Haval H6 มากนักแต่ถ้าดูจากตัวเลขความยาวแล้วก็มีความยาวมากสุด ซึ่งทำให้ TIGGO 8 เป็นรถยาวสุดในกลุ่มนี้และมีขนาด 7 ที่นั่ง 

ด้วยการออกแบบให้ดูทันสมัยเหมือนรถยุโรปทำให้ TIGGO 8 ดูลงตัวมากกว่า ที่เห็นในรูป ซึ่ง ต้องยอมรับว่ารถจากแดนมังกรในปัจจุบันนี้มีความล้ำสมัยมากยิ่งขึ้นทั้งทางด้านหน้าตา และอุปกรณ์การตกแต่งต่างๆ เข้ามานั่งในรถต้องยอมรับว่า  วัสดุหรืออุปกรณ์ต่างๆภายในรถนั้นมีความหรูหราเทียบเท่ารถยุโรปก็ว่าได้และก็ดีกว่ารถญี่ปุ่นหลายคัน คอนโซลกลาง Piano Black สวยงาม ปุ่มต่างๆเป็นแบบสัมผัส ซึ่งมีความสวยแต่ก็อาจจะเกิดรอยได้ง่าย งานประกอบต่างๆทำได้ค่อนข้างดี 

เบาะนั่งนุ่มกระชับการเลือกใช้วัสดุถือว่าทำออกมาได้ดี ในการทดสอบทางทีมงานได้ทดลองนั้งแถว 3 เพื่อดูว่านั่งได้จริงหรือไม่ ซึ่งสามารถนั่งได้จริง เป็นเพราะ ตัวรถที่ยาวขึ้นของTIGGO 8 แต่ ถ้านั่งในระยะทางไม่ไกลมากได้ แต่สำหรับเด็กไม่มีปัญหา ถ้าเทียบอารมณ์นั่งใกล้เคียงกับรถในกลุ่ม PPV ถึงแม้ว่าจะใช้งานแถว 3 แต่ ก็ยังจะพอมีพื้นที่เหลือในการเก็บของด้านท้ายด้วย

ออกวิ่งทดสอบ แบบสั้นๆจับอาการได้หลักๆคือช่วงล่าง ออกแนวแข็ง ทดสอบเหยียบฝาท่อ รถมีอาการกระแทกขึ้นมาจนรู้สึกได้อันนี้ถือว่ายังไม่ได้ไม่ค่อยดี เพราะถ้ามองว่า TIGGO 8 ถือ เป็นรถขนาดใหญ่ควรจะเก็บแรงสั่นสะเทือนที่ขึ้นมาในห้องโดยสารได้ดีกว่านี้ แต่ถ้าวิ่งด้วยความเร็ว ช่วงล่างในแบบแข็งจะให้การเกาะถนนที่ดีกว่า การเข้าโค้งหรือขึ้นเนิน รถไม่มีอาการย้วยหรือโคลงให้เห็น ซึ่งทำได้ดีในความเร็วสูงแต่ในความเร็วต่ำถ้าเจอถนนเมืองไทยอาจจะมีปัญหา เพราะในการทดสอบ พื้นถนนมาเลเซียเรียบมาก ซึงเหมาะกับการปรับช่วงล่างในแบบแข็งก 

ด้านการเก็บเสียง อาจจะยังทดสอบได้ไม่ครบทุกช่วงความเร็วแต่ในความเร็วไม่เกิน 70km เสียงที่ดังขึ้นจากพื้นถนนถือว่าดัง พอสมควร ในส่วนของเสียงลมในความเร็วต่ำทำได้ดีแต่ในความเร็วสูงยังไม่ได้ทดสอบ เสียงเครื่องยนต์ที่เข้าห้องโดยสารหรือเวลาเร่งแซงเสียงเครื่องเข้าห้องโดยสารเล็กน้อยอยู่ในเกณท์ปกติ

ทางด้านเครื่องยนต์นั้นรถที่ใช้ทดสอบเป็น เครื่องยนต์เบนซิน 2.0L Turbo 250 แรงม้า 390 นิวตันเมตร ต่างจากรุ่นที่จะนำเข้ามาจัดจำหน่ายในประเทศไทยซึ่ง เป็นระบบปลั๊กอินไฮบริด ที่จะมีพละกำลังมากกว่านี้ พร้อมทั้งสามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าได้ไกลถึง 80 km  ทางทีมอาจจะไม่ได้ลงลึก แต่ก็ให้ความรู้สึกที่ดีในด้านพละกำลังการต่อเกียร์ถือว่ามีความนุ่มนวล ให้การตอบสนองต่อคันเร่งที่ดีค่อนข้างทันใจ กดคันเร่งเป็นมามีการรอรอบเล็กน้อยถือว่ารับได้

ในส่วนของรุ่นอื่นในการทดสอบไม่ว่าจะเป็น TIGGO 4 PRO และ TIGGO 7 PRO นั้นอารมณ์ในการขับขี่ไม่ต่างกันมากและสิ่งที่น่าประหลาดใจสำหรับ ทั้ง 3 รุ่นคือ ช่วงล่าง ที่แทบจะไม่แตกต่างกันเคย ซึ่งความเป็นจริงแล้วรถแต่ละขนาดควรจะ ช่วงล่างที่แตกต่างกัน โดยปกติรถเล็กอาจจะแข็งกว่าเป็นเรื่่องปกติส่วนรถที่มีขนาดใหญ่จะมีความนุ่มกว่า แต่ทั้ง 3 คันกลับมีช่วงล่างที่เหมือนกันหมดซึ่งเน้นไปทางแข็ง ซึ่งดีในความเร็วสูงแต่จะรู้สึกกระด้างในความเร็วต่ำ

Chery TIGGO 8 PRO   ขนาดและมิติตัวถัง Dimension

• ความยาว :   4722 มิลลิเมตร
• ความกว้าง : 1860 มิลลิเมตร
• ความสูง :     1705 มิลลิเมตร
• ความยาวฐานล้อ Wheelbase : 2710 มิลลิเมตร

ถ้าเทียบมิติตัวถังแล้วในกลุ่มเดียวกัน Honda CR-V , MG HS,Mazda CX-5 และ Haval H6 จะมีความยาวน้อยกว่า TIGGO 8 PRO  แต่ก็มีความยาวน้อยกว่า Mazda CX-8

TIGGO 8 PRO ได้รับการออกแบบ ตั้งแต่กระจังหน้าทรงเพชรเมทริกซ์เรขาคณิต เข้ากับ ไฟหน้าแบบ LED ซึ่งให้ผลตอบรับจากลูกค้าอย่างยอดเยี่ยม นอกจากนี้ การออกแบบรอบคันรถยังสะท้อนถึงความสง่างามที่มั่นคงและแฟชั่นแบบไดนามิก  หลังคาแบบพาโนราม่าซันรูฟ ที่ปัดน้ำฝนด้านหน้าความเร็วอัตโนมัติ ไฟหน้าเปิดปิดอัตโนมัติ ราวหลังคา ไฟท้ายแบบ LED ล้อแม็กซ์ 18”

การตกแต่งภายใน TIGGO 8 PRO ได้รับการออกแบบให้เป็นลักษณะห้องโดยสารแบบครอบครัว 3 แถว 7 ที่นั่ง ซึ่งเบาะจะมีให้เลือกสองสีน้ำตาลและดำ มาพร้อมกับหน้าจอแบบ Triplex Full LCD ขนาด 12.3 นิ้ว หน้าจอควบคุมจากส่วนกลาง และหน้าจอสัมผัส LCD เครื่องปรับอากาศอัจฉริยะขนาด 8 นิ้ว นอกจากนี้ยังรองรับฟังก์ชั่นแบบอินเทอร์แอคทีฟ Apple/Android การชาร์จแบบไร้สาย  ยังมีระบบเสียงรอบคันรถ 8 ลำโพงจากแบรนด์ SNOY

เครื่องยนต์ 

สำหรับทางด้านขุมพลัง Chery Tiggo 8 Pro ในจีนนั้นมีหลายแบบ แต่สำหรับไทยนั้น จะเป็นเครื่องยนต์ แบบ Hybrid ที่ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร เทอร์โบ ทำงานประสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า สร้างแรงบิดสูงสุด 510 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์ CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า ทำความเร็ว 0-100 km ภายใน 8.2 วินาที อัตราการประหยัด 1.55L/100 km และยังสามารถ วิ่งด้วยไฟฟ้าEV ได้ถึง 80 km 

TIGGO 8 PRO e+ มาพร้อมกับ 12 ฟังก์ชั่นการช่วยเหลือการขับขี่ (ADAS) เช่น การสตาร์ท-หยุดอัตโนมัติ, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ (ACC), การเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB) และการเตือนการชนด้านหน้า (FCW) ด้วยการทำงานของฟังก์ชั่นอัจฉริยะ  ระบบความปลอดภัย ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ระบบป้องกันล้อล็อก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD  เซ็นเซอร์รอบคัน กล้องถ่ายภาพพาโนรามา 360° HD ไฟสูงอัตโนมัติ

สรุป  

สำหรับ TIGGO 8 Pro e+ PHEV อีกหนึ่งรุ่นจาก Chery ที่จะเข้ามาแข่งขันในตลาดไทย ก็ต้องยอมรับว่าเป็นตลาดที่แข็งแกร่งถ้าจะช่วงชิงพื้นที่ในตลาดให้ได้นั้นคงต้องทำการบ้านอย่างหนักสำหรับ Chery เพราะตลาดไทยนั้น ต้องมีหลังบ้านที่แข็งแรงด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง บริการหลังการขาย หรือ ซ่อมบำรุง การรับประกัน ดูแลเป็นอย่างดี นอกจากเรื่องขาย

ในด้านตัวรถ TIGGO 8 สามารถแข่งขันในตลาดได้แน่นอนไม่ว่าจะเป็นเรื่อง หน้าตา วัสดุการตกแต่งต่างๆผ่าน การขับขี่อาจจะต้องมีการปรับปรุงเล็กน้อยไม่ใช้เรื่องใหญ่ ในส่วนเครื่อง PHEV อาจจะยังไม่ได้ทดสอบยังตอบไม่ได้ แต่ในเรื่องความทนทานของเครื่องยนต์หรือระบบต่างๆนั้น คงต้องดูกันยาวๆ แต่ถ้าได้การรับประกันที่ดี ดูแลกันยาวๆไว้ใจได้นั้นก็สามารถซื้อใจผู้บริโภคได้แน่นอน เพราะต้องยอมรับว่ารถจีนไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ดูได้จาก H6 ที่แสดงให้เห็นแล้วว่าถ้า รถดี ราคาได้ ดูแลถึง ผู้ซื้อคนไทยก็เปิดใจรับได้

สุดท้ายสำหรับ TIGGO 8 Pro e+ PHEV เหมาะสำหรับคนไทยไหม ถูกใจแน่นอนในด้านหน้าตาอุปกรณ์ต่างๆ นั่งได้ 7 ตำแหน่ง  แต่ถ้าจะให้ดีต้องมาราคาที่ร้อง ว้าว ให้ได้ คาดว่าจะได้เห็นคันจริงปลายปี 2023 

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ ตรวจสอบราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ไปกับ Autospinn 

ค้นหารถมือสองทุกรุ่น ทุกแบบ ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน ดูรายละเอียด และราคารถมือสองได้ที่ ตลาดรถ One2car