Mazda ประเทศไทย เปิดตัว CARBON EDITION 4 รุ่น พิเศษ เสริมทัพ ตังแต่ปลายปีที่ผ่านมา โดยรุ่นที่นำมาตกแต่ง มีด้วยกันทั้งหมด จำนวน 4 รุ่น ประกอบด้วย Mazda 2, Mazda 3, Mazda CX-3 และ Mazda CX-30 เทคโนโลยีสกายแอคทีฟ
Mazda CARBON EDITION
Mazda CARBON EDITION รุ่นตกแต่งพิเศษ เสริมทัพเพื่อเพิ่มตัวเลือกให้กับลูกค้า พร้อมรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูดุดันเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากการออกแบบ โคโดะ ดีไซน์ ภายในโดยเด่นด้วยการตกแต่งแบบเรียบหรูต่างต่างกันในแต่ละรุ่น ทั้ง4 รุ่นประกอบไปด้วย 
Mazda 2 Carbon Edition รุ่นซีดาน 4 ประตู
เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 1.3 ลิตร อัตราสิ้นเปลือง 23.3 กิโลเมตรต่อลิตร ตกแต่ง กระจกมองข้างสีดำตัดกับโทนสีเข้มภายนอก ภายในตกแต่งพิเศษด้วยเบาะนั่งสีแดง Burgundy อุปกรณ์ Wireless Apple CarPlay® อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) ราคา 669,000 บาท
Mazda 2 Carbon Edition Sports รุ่นแฮตช์แบค 5 ประตู
กระจกมองข้างสีดำ ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยเบาะนั่งสีแดง Burgundy ระบบบันทึกตำแหน่ง Sports Paddle Shift ราคา 669,000 บาท
Mazda 3 Carbon Edition รุ่นซีดาน 4 ประตู
เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน SKYACTIV-G 2.0 กำลัง 165 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 213 นิวตัน-เมตร รองรับน้ำมัน E85 อัตราสิ้นเปลือง 15.9 กม./ลิตร ระบบส่งกำลัง SKYACTIV-DRIVE เกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟ 6 สปีด แมนนวลโหมด Activematic
สีภายนอกใหม่ สีเทา โพลี เมทัล เกรย์ เป็นครั้งแรก ตกแต่งตัดกับสีโทนเข้ม กระจกมองข้างสีดำ ล้ออัลลอยสีดำ ขนาด 18 นิ้ว ภายในตกแต่งด้วยหนังสีดำและด้ายสีแดง พร้อมเบาะหนังสีแดง Burgundy ระบบแสดงภาพ 360 องศารอบทิศทาง ราคา 1,210,000 บาท
Mazda 3 Carbon Edition Sports รุ่นฟาสต์แบค 5 ประตู
กระจกมองข้างสีดำ ล้ออัลลอยสีดำ ขนาด 18 นิ้ว ตัดกับสีภายนอก สีเทา โพลีเมทัล เกรย์ หลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้า ภายในห้องโดยสารตกแต่ง ด้วยหนังสีดำและด้ายสีแดง เบาะหนังสีแดง Burgundy ราคา 1,210,000 บาท
Mazda CX-3 Carbon Edition
เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซินขนาด 2.0 ลิตร แรงม้าสูงสุด 156 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 204 นิวตัน-เมตร อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 16.4 กิโลเมตรต่อลิตร เทคโนโลยีประหยัดพลังงาน i-Stop (Idling Stop System) SKYACTIV-DRIVE เกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟ 6 สปีด สวิตช์ Driving Selection เลือกขับขี่ในโหมด Sport เมื่อต้องการเร่งแซง หรือให้อัตราเร่งที่เพิ่มขึ้นในรอบเครื่องยนต์ที่สูง การตัดโทนสีเข้มกับกระจังหน้าสีดำ กระจกมองข้างสีดำ และล้ออัลลอยสีดำ ขนาด 18 นิ้ว หลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้า เชื่อมต่อ Wireless Apple CarPlay® พร้อมด้วยอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) เบาะไฟฟ้า ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะคนขับ ราคา 904,000 บาท
Mazda CX-30 Carbon Edition
สีโทนเข้ม ตัดกับกระจกมองข้างสีดำ เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร SKYACTIV-G กำลัง 165 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 213 นิวตัน-เมตร อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 15.4 กิโลเมตรต่อลิตร รองรับน้ำมันเชื้อเพลิง E85 เกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟ 6 สปีด ล้ออัลลอยสีดำ ขนาด 18 นิ้ว ภายในห้องโดยสาร เบาะหนังสีแดง Burgundy ตกแต่งภายในด้วยหนังสีดำและด้ายสีแดง ระบบเสียง Bose® รอบทิศทาง พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง ราคา 1,211,000 บาท
เพื่อให้เห็นความต่างที่มากขึ้นก็ต้องได้สัมผัสการขับขี่ด้วย มาสด้า ประเทศไทย จัดการทดสอบเพื่อให้เห็นตัวรถในแต่ละรุ่นว่าดีเพียงใด คันจริงในแต่ละรุ่นเป็นอย่างไร ได้จัดทดสอบ เส้นทาง กรุงเทพฯ-พัทยา
ในการทดสอบทางทีมงานได้ Mazda 3 Carbon Edition รุ่นซีดาน 4 ประตู นั่งทดสอบด้วยกัน 4 คน เต็มพื้นที่ หน้าตาภายนอกต้องบอกว่า สีเทา Machine Gray ใหม่ พร้อมล้อดำ ทำให้ตัวรถดูเด่นขึ้นทันตา และคงเป็นจุดเดียวที่รู้สึกต่างออกไป ส่วนภายในโดดเด่นด้วย เบาะนั่งสีแดง Burgundy ตกแต่งภายในด้วยหนังสีดำเดินตะเข็บด้วยด้ายสีแดง ก็เป็นอีกจุดที่เปลี่ยน
การขับขี่กับเครื่องยนต์
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 2.0 ลิตร 1,998 ซีซี ฉีดจ่ายเชื้อเพลิงแบบ Direct Injection พร้อมระบบแปรผันวาล์ว Dual S-VT Electronic กำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 213 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า รองรับน้ำมันสูงสุด Gasohol E85
คงเป็นเจ้าเดียวในตลาดที่ใช้เครื่องยนต์ใหญ่ ไม่มีเทอร์โบ จุดเด่นคือการซ่อมบำรุงง่ายด้วยอุปกรณ์ที่ไม่มากเหมือนเครื่องเทอร์โบ หรือไฮบริด เครื่อง NA สามารถลากรอบได้อย่างสนุกแม้ว่าจะนั่งเต็มคัน แต่การขับขี่ก็ยังให้ความรู้สึกดีไม่อืด แต่ก็ต้องแลกด้วยอัตราการกินน้ำมัน
ช่วงล่าง อีกจุดเด่นของมาสด้าคือระบบช่วงล่างที่ให้ความหนักแน่นเหมือนรถยุโรป อีกจุดที่ดีขึ้นสำหรับช่วงล่างของ มาสด้า3 อาการกระด้างหนักๆเวลาผ่านหลุมต่างๆดีขึ้นไม่กระแทกมากนัก เหมือนตอนแรกๆที่ได้ทดสอบ เหมือนมีการปรับช่วงล่างเล็กน้อยให้ขับขี่ได้สบายยิ่งขึ้น การเก็บเสียงเรียกทำได้ดีที่สุดในรถกลุ่มนี้ มาสด้า3 เงียบสุดแม้จะใช้ความเร็วสูงก็ตามทำให้การฟังเครื่องเสียงอย่าง Bose® รอบทิศทาง พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง เต็มไปด้วย อรรถรส ที่ดีในการฟัง
เทคโนโลยี i-ACTIVSENSE ประกอบด้วย
ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring)
ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
ระบบช่วยหยุดรถเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง SBS-RC (Smart Brake Support-Reverse Crossing)
ระบบปรับองศาไฟหน้าตามการเลี้ยวของรถ AFS (Adaptive Front-Lighting System)
ระบบเตือนเมื่อเกิดความอ่อนล้าขณะขับขี่ DAA (Driver Attention Alert)
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LAS (Lane Keep Assist System)
ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน LDWS (Lane Departure Warning System)
ระบบช่วยเบรกและหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง SBS-R (Smart Brake
Support-Reverse)
ระบบควบคุมความเร็วและพวงมาลัยตามรถคันหน้า CTS (Cruising & Traffic Support)
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ MRCC (Mazda Radar Cruise Control)
ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติแบบ Advance หรือ Advanced SBS (Advanced Smart Brake Support)
ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ ALH (Adaptive LED Headlamps)
ระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง
สรุป Mazda รุ่นพิเศษ CARBON EDITION 4 รุ่น
แน่นอนว่าในแต่ละรุ่นมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน แต่จุดที่ได้รับการตกแต่งโดยรวมทั้งหมดของแต่ละรุ่น ก็ต้องยอมรับว่าไม่ได้ปรับอะไรมากนัก แต่ด้วยรูปลักษณ์ของรถที่มีจุดเด่นอยู่แล้ว ตกแต่งเพิ่มเล็กน้อยก็ทำให้รถชัดเจนขึ้นมา ในส่วนเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร นั้นต้องบอกตามตรงว่าเป็นเทคโนโลยี ที่มีมายาวนานมากแล้วดังนั้นการจะ กระตุ้นผู้บริโภคให้หันมาสนใจมากขึ้น อาจจะต้องปรับเปลี่ยนสำหรับเครื่องยนต์ได้ก็คงจะดี
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ไปกับ Autospinn
ค้นหารถมือสองทุกรุ่น ทุกแบบ ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน ดูรายละเอียด และราคารถมือสองได้ที่ ตลาดรถมือสอง One2car
LINE
เช็กวงเงินใน 3 นาที
ความคิดเห็น