Honda CR-V ใหม่ e:HEV ขับสนุกประหยัด VTEC TURBO สายชิว Share this
รีวิวรถยนต์
โหมดการอ่าน

Honda CR-V ใหม่ e:HEV ขับสนุกประหยัด VTEC TURBO สายชิว

วรัญญู ยอดพรหม
โพสต์เมื่อ 30 March 2566

Hond CR-V 2023 “ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่” เจเนอเรชันที่ 6 เปิดตัวแล้วกระแสตอบรับดีมาก หน้าตาดี ราคาได้ เครื่องยนต์มีให้เลือกหลากหลาย ระบบความปลอดภัย  Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย 


Hond CR-V 2023

 

ไม่ให้เสียเวลา ฮอนด้า ประเทศไทย จึงได้จัดให้มีการทดสอบรถยนต์ “ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่” บนเส้นทางที่แตกต่างกันในจังหวัดเชียงใหม่  กับ 2 ขุมพลัง การขับเคลื่อน ระบบฟูลไฮบริด e:HEV และขุมพลัง VTEC TURBO เพื่อให้เห็นประสิทธิภาพกันไปเลย


หลังจากเปิดตัวได้ไม่นาน ยอดจองที่มาอย่างต่อเนื่องไม่ถึงเดือนกว่า 2,000 คัน แสดงให้เห็นแล้วว่าเป็นรถ suv ที่หลายท่านเฝ้าคอย ในการเปิดตัวอีกครั้งและครั้งนี้มากับ  2 ขุมพลัง 


ระบบฟูลไฮบริด e:HEV ที่ผสานการทำงานอันทรงพลังของเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว และขุมพลังเทอร์โบ เครื่องยนต์เบนซิน VTEC TURBO ขนาด 1.5 ลิตร มีให้เลือกทั้งแบบระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ (Real Time(TM) AWD with E-DPS) มอบสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังและอัตราประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม รองรับทุกไลฟ์สไตล์กับเบาะโดยสารแบบ 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง พร้อมด้วยระบบ ความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ในทุกรุ่นย่อย ทำให้มีทางเลือกมากขึ้น


โดยทางฮอนด้า ได้จัดเตรียมเส้นทางการทดสอบในจังหวัดเชียงใหม่ที่แตกต่างกันสำหรับรุ่น e:HEV และรุ่น TURBO เพื่อให้สื่อมวลชนได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่และสัมผัสการตอบสนองของระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ (Real Time(TM) AWD with E-DPS) ได้อย่างเต็มที่ 

 

การทดสอบ Hond CR-V 2023

ไม่ให้เสียเวลาในการทดสอบเริ่มจาก Hond CR-V e:HEV RS กับสมรรถนะเครื่องยนต์ ผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) กับเครื่องยนต์ใหม่ขนาด 


2.0 ลิตร Direct Injection Atkinson-Cycle DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนที่มีประสิทธิภาพสูง ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดมอเตอร์สูงสุด 335 นิวตัน-เมตร ที่ 0 - 2,000 รอบต่อนาที มอบอัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมสูงสุดถึง 20.8 กม./ลิตร* (รุ่น e:HEV ES) 

ด้านนอก หลายท่านคงเห็นกันแล้วก็ต้องบอกว่า รุ่นใหม่ เจเนอเรชันที่ 6 ลงตัวมากขึ้นรถดูสวยแบบเรียบๆ ตัวถังที่ยาวทำให้รถดูลงตัว ในรุ่นทดสอบแรก กับ RS มีชุดแต่งซึ่งแตกต่างจากรุ่นปกติเพียงแค่ทำสีชุดแต่งเท่านั้น เพิ่มอุปกรณ์บางอย่างเล็กน้อย ภายใน เบาะเดินด้ายแดง นอกนั้นแทบจะเหมือนกันหมด

นั่งเบาะคนขับตำแหน่งการมองต่างๆทำออกมาได้ดี โดยเบาะสามารถ ปรับขึ้นลงได้ พวงมาลัยปรับได้เข้าออกขึ้นลง อุปกรณ์ต่างๆเรียกว่ายกจาก ซีวิค มาเลยไม่ต้องทำความคุ้นเคยอะไรเพราะใช้งานได้ง่ายและถ้าใครมีซีวิคอยู่แล้วก็ยิ่งคุ้นเคยกันเลย เพราะเหมือนกันหมด

ออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ ในวันที่ฝุ่น PM2.5 ขึ้นไปถึงระดับสีแดง แต่ระบบปรับอากาศรถทำงานได้อย่างดีเยียม สามารถกรองฝุ่นได้ดี  ทำให้ห้องโดยสารสามารถเปิดหน้ากากได้ ทดสอบแล้วว่าใช้งานได้จริง ตัวเลขในการวัดค่าฝุ่นนั้นต่างจากภายนอกรถชัดเจน

ออกเดินทาง สิ่งที่รู้สึกได้ชัดเจนจากรุ่นเดิมคือช่วงล่าง เก็บอาการหลุมบ่อถนนในเมืองทำได้ดี ขึ้นชัดเจน แรงกระแทกที่ส่งขึ้นมาที่ห้องโดยสารนั้นน้อยลงมาก รถคันใหญ่เมื่อดูจากภายนอกแต่เวลาใช้งานจริงบนถนน เวลารถติดต้องบอกว่าขับขี่ได้ง่าย  ด้วยตำแหน่งการมองต่างๆของผู้ขับขี่ 

เครื่องยนต์แบบไฮบริดเหมาะกับการใช้งานในเมืองเป็นอย่างมาก ด้วยความเงียบในการใช้งานในเมืองทำให้รู้สึกถึงความสะดวกสบายกว่าเดิมมาก อัตราเร่งต่างๆเวลาใช้งานในเมืองก็ถือว่าดี วิ่งออกนอกเมือง เส้นทางในการทดสอบของ e:HEV เน้นเป็นทางขึ้นเขาแบบชันเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์สูงสุด วิ่งออกนอกเมืองพอทำความเร็วได้บางช่วงอัตราเร่งต่างๆต้องบอกว่าถ้าคุณขับ civic e:HEV มาจะผิดหวังมากเพราะรู้สึกต่างอย่างชัดเจน มันไม่ได้แรงอย่างที่คิด เป็นเพราะน้ำหนักรถที่มากกว่าซีวิคประมาณ 400กิโลกรัมได้  แต่ก็ไม่คิดว่าจะต่างกันมากขนาดนี้ 

แต่ถ้าคุณไม่เคยขับและได้ทดสอบเครื่องไฮบริด ของซีอาวี เป็นครั้งแรกก็ต้องบอกว่ากำลังดี ไม่ได้แรงแบบกระชากใจแต่ก็เพียงพอต่อการใช้งานปกติ ประกอบกับช่วงล่างที่มั่นใจได้ให้การเกาะถนนที่ดีแบบว่า ดีกว่าที่คิดเยอะวิ่งช้าก็เก็บอาการได้ดี วิ่งเร็วก็ให้ความมั่นใจ การเก็บเสียงทำได้ดีเงียบขึ้น ประกอบกับ เครื่องเสียงที่ดียิ่งทำให้การเดินทางนั้นเป็นไปอย่างดี 

ในช่วงขึ้นเขาโค้งต่อเนืองรถเข้าโค้งได้อย่างมั่นใจอาการท้ายออกเวลาเข้าแรงๆไม่มีให้เห็นพร้อมกับระบบขับสี่ ยิ่งทำให้การเกาะถนนดียิ่งขึ้นระบบขับสี่ปรับเปลี่ยน ตามรูปแบบการขับขี่ได้ 60:40 - 50:50 แล้วแต่สภาพพื้นที่หรือการขับขี่ ช่วงล่างดีส่งผลทำให้พวงมาลัยควบคุมได้ง่ายทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างสบายใจ อัตราการกินน้ำมันซึ่งเป็นการทดสอบแบบเน้นจัดเต็มดูช่วงล่างการเก็บเสียง เส้นทางขึ้นเขา สามารถทำตัวเลขได้ประมาณ 11-12km/L ในส่วนขาลง ทำได้ 16-17km/L ตัวเลขการใช้งานจริงในเมืองอาจจะต้องนำมาทดสอบอีกครั้ง (4WD)

ช่วงบ่ายสลับรถ เป็นรุ่น 1.5Turbo EL 4WD 7 ที่นั่ง เป็นตัวท๊อปสำหรับ 1.5 และเป็นเพียงรุ่นเดียวของ 7 ที่นั่ง เส้นทางในการทดสอบขึ้นเขาเหมือนกันแต่เป็นทางยาวๆ สามารถทำความเร็วได้มากกว่า 

เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร Direct Injection DOHC VTEC TURBO 4 สูบ 16 วาล์ว ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Direct Injection และ Turbocharger  มอบกำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที ทำงานกับเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) และมีอัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุด 14.3 กม./ลิตร* (รุ่น E) และรองรับน้ำมัน E85

ภายในห้องโดยสารไม่ได้แตกต่างกัน มีจุดแตกต่างกันเล็กๆน้อยเท่านั้น สำหรับที่นั่งแถว 3 ท้ายรถนั้นก็ต้องบอกว่ามีเอาไว้ให้เด็กนั่งน่าจะเหมาะกว่าเพราะผู้ใหญ่นั้นแทบจะนั่งไม่ได้ตำแหน่ง ขาตั้งชันขึ้นอย่างชัดเจน ทำให้การนั่งแบบทางไกลไม่สามารถทำได้จริงๆ 

วิ่งออกจากตัวเมือง ทำความเร็ว กดคันเร่งออกตัวถ้าเทียบ 2 รุ่นก็ต้องบอกว่าแทบจะแยกไม่ออกว่าใครเร็วกว่า แต่ตัวเลขที่วัดได้นั้น เครื่องยนต์ไฮบริดนั้นเร็วกว่าเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น ถ้าแข่งกันก็ชนะแค่หัวรถ และเมื่อทำความเร็วแบบต่อเนื่องช่วงท้ายของ 1.5 ก็สามารถไหลได้ดีกว่าชัดเจน การตอบสนองทั้งเครื่องและเกียร์ 1.5 ทำได้ดีกว่า(น้ำหนัก 1.5Turbo 1,749 น้ำหนัก ไฮบริด 1,815)

ช่วงล่างต้องบอกว่าแปลกใจมากทำไมต่างกันเยอะมากสำหรับ 2 รุ่น วิ่งขึ้นเขาทำความเร็ว 1.5 ท้ายออกแบบ งง ซึ่งทำความเร็วเท่าๆกับ ไฮบริด การโยนตัวของรถมากกว่าชัดเจน ช่วงล่างมีความนิ่มมากว่าตัวรถแสดงอาการโค้งตัวมากว่า แต่ถ้าคุณเทียบกับรุ่นเดิมรุ่นใหม่ก็ยังเป็นช่วงล่างที่ดีกว่าเดิม แต่ถ้าเทียบกับไฮบริด 1.5 ทำได้แย่กว่าชัดเจน ดังนั้นในการใช้งานจริงแบบนั่งเต็มคัน 5 คน อาจจะดีกว่านี้เพราะมีน้ำหนักกดตัวรถ (อาการรถจะออกในความเร็วสูง)

ในส่วนของการเก็บเสียงนั้นทำได้ดีเท่าๆกับไฮบริด ไม่ได้แตกต่างกัน อัตราการกินน้ำมันเส้นทางขึ้นเขากดเต็มทำได้ 9-10 km/L ในส่วนขาลงทำได้ 13-14 km/L อาจจะเป็นตัวเลขที่ใช้งานแบบเต็มกำลัง (4WD) อัตราเร่งถ้าเทียบกับรุ่นเดิมเครื่องยนต์ 2.4 นั้น บอกเลยว่า 1.5 รู้สึกดีกว่าเยอะให้ทั้งอัตราเร่งและการประหยัดที่ดีกว่า 

ดังนั้นการทดสอบแบบใช้งานปกติยาวๆอาจจะต้องยืมรถมาทดสอบกันอีกครั้งแบบใช้งานในเมืองปกติเพื่อดูอัตราการกินน้ำมันว่าทั้งสองรุ่นจะแตกต่างกันแค่ไหน


ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ผสานการทำงานของกล้องด้านหน้าและเรดาร์ ในการตรวจจับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน และคนเดินถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีฟังก์ชันการทำงานหลัก ๆ ดังนี้
ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS) 
ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning : RDM with LDW)
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF) 
ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB) หรือ ครั้งแรกกับระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive Driving Beam: ADB) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD) ที่ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในเวลากลางคืนและปรับองศาของแสงไฟเพื่อลดการรบกวนรถด้านหน้าและคนเดินถนน
ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN) 
พร้อมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัยและเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่อื่น ๆ* อาทิ 
ใหม่ ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (Multi-view Camera System: MVCS) (ยกเว้นรุ่น E)
ใหม่ เซ็นเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด 
ใหม่ ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control: HDC)
ใหม่ ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light: ACL)
ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch)
ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Monitor)
ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors) (รุ่น e:HEV ES และ 
e:HEV RS 4WD)
ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift)


สรุป Honda CR-V 2023

   สำหรับ Honda CR-V ใหม่ ที่มีเครื่องยนต์ให้เลือกทั้งสองรูปแบบนั้นแต่ต่างกันอย่างชัดเจน ทั้งเรื่องเครื่องยนต์และช่วงล่าง ในส่วนของการตกแต่งทั้งภายในภายนอกแทกจะไม่ต่างกัน พร้อมทั้ง Honda SENSING ที่ให้มาทุกรุ่นย่อย ต้องเลือกว่าเราเหมาะกับแบบไหน

เครื่องยนต์ไฮบริด ถ้าคุณต้องการความประหยัด แน่นอนว่าไฮบริดดีกว่า พร้อมช่วงล่างที่มั่นใจได้ในทุกโค้ง และถ้าคุณไม่ได้ต้องการระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ตัวเริ่มต้นคุ้มค่ามากเพราะต่างกันถึง 140,000 (รุ่นขับสองประหยัดน้ำมันกว่าเล็กน้อย) 

เครื่องยนต์เทอร์โบ ขับแบบครอบครัวเดินทางชิวๆ ช่วงล่างนุ่มนวล ไม่เน้นแรงมาก ราคาประหยัดกว่า ต้องการ 7 ที่นั่ง(เด็กนั่ง) ก็คงต้องมองมาที่ตัว เทอร์โบ ในส่วนตัวชอบช่วงล่างไฮบริดมากกว่า 

ทำไมช่วงล่างต่างกัน วิศวกรฮอนด้า ให้เหตุผลว่า "การปรับเซ็ตช่วงล่างในแต่ละรุ่นต่างกันหมดด้วยน้ำหนักรถที่แตกต่างกัน แต่ที่ชัดเจนสำหรับไฮบริดที่ขับขี่แตกต่างจากเทอร์โบ เนื่องมาจาก แบตเตอรี่ ที่วางในตำแหน่งซุ้มล้อหลังทำหน้าที่เหมือนค้ำโช๊คหลังทำให้ตัวรถมีอาการบิดตัวน้อยลง ทำให้รถเข้าโค้งได้ดีกว่าเทอร์โบอย่างชัดเจน"

ดังนั้นทั้งสองรุ่นจึงแตกต่างกันชัดเจน แนะนำว่าสำหรับ CR-V รุ่นใหม่ นี้ผู้ที่จะเลือกซื้อนั้นควรจะทดลองขับก่อนว่าชอบแบบไหน คันไหนเหมาะกับเรา (ตัวเทอร์โบนำไปตกแต่งเพิ่มกำลังได้ง่ายกว่า)

 


ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 5 รุ่นย่อย ดังนี้


เครื่องยนต์ไฮบริด
- รุ่น e:HEV RS 4WD    5 ที่นั่ง             ราคา 1,729,000 บาท
- รุ่น e:HEV ES             5 ที่นั่ง             ราคา 1,589,000 บาท


เครื่องยนต์เทอร์โบ 
- รุ่น EL 4WD                7 ที่นั่ง             ราคา 1,649,000 บาท
- รุ่น ES 4WD               5 ที่นั่ง             ราคา 1,599,000 บาท
- รุ่น E                           5 ที่นั่ง            ราคา 1,419,000 บาท
โดยมีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีใหม่ สีน้ำเงินแคนยอนริเวอร์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD และ e:HEV ES สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD สีขาวแพลทินัม (มุก) สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) และสีดำคริสตัล (มุก)

- สำหรับสีขาวแพลทินัม (มุก) เพิ่ม 12,000 บาท และสีดำคริสตัล (มุก) เพิ่ม 8,000 บาท

อัปเดตข่าวรถยนต์ ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ไปกับ Autospinn.com

ซื้อขายรถมือสอง ทุกรุ่น ทุกแบบ ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน ดูรายละเอียด และราคารถมือสองได้ที่ ตลาดรถ One2car


คำนวณค่างวดรถเบื้องต้น
Use the calculator to calculate the installment of your dream car
ระยะเวลาผ่อนชำระ (เดือน)
* ราคาค่างวดรวม VAT แล้ว สำหรับพิจารณาข้อมูลเบื้องต้น ไม่สามารถนำไปอ้างอิงในการซื้อขายได้
อัตราการผ่อนชำระ (เดือน)
บาท
จำนวนงวด (เดือน)
สนใจขอสินเชื่อรุ่นนี้
* ราคาค่างวดรวม VAT แล้ว สำหรับพิจารณาข้อมูลเบื้องต้น ไม่สามารถนำไปอ้างอิงในการซื้อขายได้

ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ