Royal Enfield Guerrilla 450 รถมอเตอร์ไซค์สไตล์คลาสสิก พิกัดขนาด 450cc แบบเดียวกับ Himalayan 450 แต่ออกแบบให้เน้นใช้งานได้ในทุกๆ วัน เปิดราคาในต่างประเทศแล้ววันนี้
Guerrilla 450
Royal Enfield Guerrilla 450 (รอยัล เอ็นฟิลด์ เกอร์ริลล่า 450) รถมอเตอร์ไซค์สไตล์คลาสสิกที่ถูกสร้างสรรค์มาให้ทุกท่านสามารถขับขี่ได้อย่างสนุกสนานในทุกๆ วันตามแนวคิด Pure Motorcycling อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ Royal Enfield โดยเจ้ารถคันนี้ถูกพัฒนาต่อยอดพื้นฐานมาจาก Royal Enfield Himalayan 450 ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ในประเทศไทย ด้วยราคา 219,000 บาท
Guerrilla 450
เกอร์ริลล่า 450 ออกแบบในแนวคิดแบบ "รถกองโจร" ตามชื่อของมัน โดยตัวรถหยิบยืมเอาพื้นฐานจาก Himalayan 450 มาหลายอย่าง เนื่องด้วยรถรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ใหม่ที่สุดของ Royal Enfield ทำให้เจ้า Guerrilla 450 ได้รับเทคโนโลยีที่ใหม่ที่สุดมาด้วยเช่นกัน เพียงแต่ปรับการนำเสนอใหม่ให้เป็นแบบรถเน็กเก็ต ที่สามารถขับขี่ได้ในทุกๆ วันแบบง่ายดาย ใครๆ ก็ขี่ได้ และยังสามารถสัมผัสได้ถึงความสนุกสนาน
ไฟหน้าแบบ LED ทรงกลม มาพร้อมกับไฟสูง ไฟต่ำเต็มระบบ และไฟเลี้ยวแบบ LED
ช่วงล่างแบบเทเลสโกปิกขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 43 มม. มาพร้อมกับยางหุ้มโช๊ค ระยะยุบ 140 มม. ล้อหน้าใช้ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ชนิดไม่มียางใน รัดยางแบบกึ่งลุยขนาด 120/70 R17 มาพร้อมกับระบบเบรกเป็นดิสก์เบรกเดี่ยว ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 310 มม. ปั้มเบรก 2 พอต พร้อมระบบ ABS ป้องกันล้อล็อก
แฮนด์บาร์ออกแบบให้มีการยกสูง และดึงเข้าหาตัวผู้ขับขี่ เพื่อการควบคุมที่ง่าย
หน้าจอเรือนไมล์แบบจอสี TFT ทรงกลมขนาด 4 นิ้ว บอกข้อมูลการขับขี่ครบครัน รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ส่วนกุญแจเป็นแบบมาตรฐาน สามารถปรับรูปแบบการแสดงผลได้ 2 แบบ
มีช่องเสียบ USB-C มาให้ 1 ช่อง
ประกันแฮนด์ด้านขวา มีปุ่มดับเครื่อง/ติดเครื่องยนต์, ปุ่มสลับโหมดการขับขี่ระหว่าง Performance / Eco ส่วนคันเร่งเป็นคันเร่งไฟฟ้า
ประกันแฮนด์ด้านซ้าย ประกอบด้วยปุ่มควบคุมไฟสูง/ต่ำ/ไฟขอทาง, ไฟเลี้ยว, แตร และปุ่มควบคุมหน้าจอบนตัวรถแบบจอยสติ๊ก
ถังน้ำมันดีไซน์เรียบแบน ความจุอยู่ที่ 11 ลิตร
เบาะนั่งแบบชิ้นเดียว แบ่งตอนผู้ขับขี่และผู้โดยสาร เบาะผู้ขับมีความสูงอยู่ที่ 780 มม.
ช่วงล่างหลัง ใช้โช๊คอัพเดี่ยวแบบลิ้งค์เอจ ระยะยุบ 150 มม.
ล้อหลัง ใช้ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว รัดยางขนาด 160/60 R17 ชนิดไม่มียางใน มาตรฐานเดียวกับรถบิ๊กไบค์ทั่วไป ส่วนระบบเบรกเป็นดิสก์เบรกเดี่ยว พร้อมปั้มเบรก 1 พอต และระบบ ABS ป้องกันล้อล็อก
ไฟท้ายแบบ LED ที่รวมทั้งไฟท้ายและไฟเลี้ยวเอาไว้ในชุดเดียวกัน
เครื่องยนต์ Royal Enfield Guerrilla 450
เครื่องยนต์ของ Royal Enfield Guerrilla 450 ใช้เครื่องยนต์ Sherpa 450 แบบ 1 สูบ DOHC 4 จังหวะ 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาดความจุ 452cc มอบพละกำลังสูงสุด 40.02 แรงม้า ที่ 8,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 40 นิวตันเมตร ที่ 5,500 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์แมนนวล คลัตช์มือ 6 สปีด ขับเคลื่อนด้วยโซ่ โดยเครื่องยนต์แม้จะมีพื้นฐานเดียวกับ Himalayan 450 แต่มีการปรับจูนรายละเอียดใหม่ ให้มีแรงบิดช่วงต้นที่มากขึ้น บิดติดมือมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม มาพร้อมกับระบบสลิปเปอร์คลัตช์ ช่วยทำให้การเปลี่ยนเกียร์ง่ายดายมากยิ่งขึ้น
ข้อมูลทางเทคนิค Royal Enfield Guerrilla 450
| ประเภท | 1 สูบ DOHC 4 จังหวะ 4 วาล์วต่อสูบ ระบายความร้อนด้วยน้ำ |
| ปริมาตรกระบอกสูบ | 452 ซีซี |
| ขนาดลูกสูบ x ช่วงชัก | 84 x 81.5 มม. |
| อัตราส่วนกำลังอัด | 11.5 : 1 |
| พละกำลังสูงสุด | 40.02 แรงม้า ที่ 8,000 รอบ/นาที |
| แรงบิดสูงสุด | 40 นิวตันเมตร ที่ 5,500 รอบ/นาที |
| ระบบเกียร์ | แมนนวล คลัตช์มือ 6 สปีด |
ตัวรถ Royal Enfield Guerrilla 450
| เฟรม | เฟรมเหล็ก แบบทูบูล่า |
| โช๊คหน้า | โช๊คอัพเทเลสโกปิก เส้นผ่านศูนย์กลาง 43 มม. ระยะยุบ 140 มม. |
| โช๊คหลัง | โช๊คอัพเดี่ยวแบบลิ้งค์เอจ ระยะยุบ 150 มม. |
| เบรคหน้า | ดิสเบรคเดี่ยว ขนาด 310 มม. พร้อมปั้มเบรค 2 พอต ABS |
| เบรคหลัง | ดิสเบรคเดี่ยว ขนาด 270 มม. พร้อมปั้มเบรค 1 พอต ABS |
| ยางหน้า | 120/70 R17 |
| ยางหลัง | 160/60 R17 |
มิติรถ Royal Enfield Guerrilla 450
| ขนาด ยาว x กว้าง x สูง (มม.) | 2,090 x 833 x 1,125 |
| ความสูงเบาะ | 780 มม. |
| ระยะฐานล้อ | 1,440 มม. |
| ระยะห่างจากพื้น | 169 มม. |
| น้ำหนักตัวพร้อมใช้งาน | 185 กก. |
| ความจุถังน้ำมัน | 11 ลิตร |
ลองขับ Royal Enfield Guerrilla 450
ในส่วนของการทดสอบขับขี่ Royal Enfield Guerrilla 450 คันนี้ ผมมาทดสอบขับขี่ที่เมืองบาเซโลน่า ประเทศสเปน โดยข้อดีของการทดสอบที่นี่คือ พื้นถนนมีความยึดเกาะ "เทียบเท่ากับสนามแข่งรถ" ในประเทศไทย ทำให้เราสามารถทดสอบประสิทธิภาพของตัวรถได้อย่างเต็มที่
จุดแรกที่ต้องชื่นชมรถคันนี้คือการออกแบบตัวรถที่ทำให้มันควบคุมได้ง่าย ด้วยน้ำหนักตัวเพียง 185 กิโลกรัม ประกอบกับจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำมาก ทำให้เราสามารถควบคุมรถคันนี้ได้ง่ายมาก ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมือง หรือการขับขี่บนทางเขา สามารถพารถคันนี้ซอกแซกไปตามการจราจรที่ติดขัดได้อย่างง่ายดาย และทรงตัวบนความเร็วต่ำได้ง่าย
เบาะนั่งที่มีความสูงเพียง 780 มม. สำหรับผู้ทดสอบมีความสูง 168 ซม. สามารถวางอุ้งเท้าลงพื้นได้ทั้ง 2 ข้าง และถ้าเอาเท้ามาวางบนพักเท้า 1 ข้าง ก็จะสามารถใช้เท้าอีกข้างวางเท้าลงพื้นได้แบบเต็มๆ อย่างมั่นคง
พละกำลังของเครื่องยนต์กับการขับขี่ในเมือง ถือว่า "เหลือเฟือมาก" ด้วยแรงบิดของรถที่มาไว และรอบเครื่องยนต์ที่กวาดไวมาก แรงบิดมาเยอะมากตั้งแต่ช่วงรอบเครื่องยนต์ 2,000 - 6,000 รอบ/นาที ทำให้เราสามารถขับขี่รถคันนี้ซอกแซกในเมืองได้อย่างคล่องแคล่ว ว่องไว อันเกิดจากการรวมกันอย่างลงตัวของตำแหน่งท่านั่ง จุดศูนย์ถ่วง และกำลังเครื่องยนต์
ส่วนคันเร่งของรถเป็นระบบไฟฟ้า ซึ่งเราพบว่าตัวคันเร่งออกแบบให้มีอาการ "แลค" ซึ่งทำงานคล้ายๆ กับระยะฟรีคันเร่งของคันเร่งสาย ซึ่งหากมองในมุมผู้ขับขี่มือใหม่ จุดนี้ถือว่าดี เพราะทำให้ผู้ขับขี่ไม่ตกใจกับแรงบิดของรถที่สูงมากทันทีที่เปิดคันเร่ง
แต่ถ้าเป็นมือเก๋าที่ต้องการแรงบิดต่อเนื่อง อาจจะรู้สึกติดขัดกับอาการรออัตราเร่งของรถสักหน่อย ซึ่งวิธีแก้คือให้คุณอมคันเร่งรอไว้เลย ก็จะได้แรงบิดอย่างต่อเนื่องเหมือนเดิม
ช่วงล่างของรถ ถูกปรับเซ็ตมาให้มีความแน่นสูงมาก เป็นช่วงล่างที่เหมาะสำหรับการขับขี่บนความเร็วสูงเป็นอย่างยิ่ง ทำให้การขับขี่เข้าโค้งด้วยความเร็วสูงนั้นรู้สึกมั่นใจเป็นอย่างมาก รถไม่มีอาการบั้มพ์ออกมาให้เห็นแม้แต่น้อย ทว่าหากนำไปใช้งานขับขี่ในเมืองซึ่งมีความแตกต่างของพื้นถนนพอสมควร จะทำให้เราสามารถสัมผัสได้ถึงแรงกระแทกอันเกิดจากความแตกต่างกันของพื้นทาง ซึ่งเป็นเรื่องปกติของรถที่ออกแบบช่วงล่างให้มีความเฟิร์มสูง
ระบบเบรก ถือว่าจัดมาให้ยอดเยี่ยมดี มีกำลังในการเบรกที่สูงมาก โดยเฉพาะเบรกหน้าที่มีกำลังเบรกอันยอดเยี่ยมมาก มอบระยะเบรกที่สั้น มั่นใจได้ และยังมาพร้อมกับระบบเบรก ABS ป้องกันล้อล็อก ทำให้เราสามารถใช้เบรกได้อย่างสบายใจ ส่วนเบรกหลังก็มีกำลังเบรกที่สูงมากเพียงพอสำหรับใช้ในการควบคุมความเร็วขณะเข้าโค้ง หรือช่วยชลอความเร็วขณะขับขี่ในเมืองได้อย่างยอดเยี่ยม
และจากการทดสอบขับขี่กว่า 10 ชั่วโมงต่อเนื่อง พบว่าไม่มีอาการเมื่อยล้าจากการขับขี่เลยแม้แต่น้อย อันนี้ถือว่ายอดเยี่ยมมากๆ
Royal Enfield Guerrilla 450 ข้อสังเกตุ
ข้อสังเกตุของ Royal Enfield Guerrilla 450 คือคันเร่งของตัวรถ ที่ออกแบบมาเน้นให้มือใหม่ใช้งานอย่างแท้จริง ทำให้การทำงานของคันเร่งจะมีอาการ "แลค" ประมาณ 1-2 วินาที ทำให้แรงบิดของรถจะมาช้าไปเล็กน้อย ซึ่งอาการแบบนี้จะเหมาะกับมือใหม่มากๆ เพราะรถจะไม่พุ่งแรงจนคุมยาก ซึ่งช่วยสร้างความปลอดภัยให้กับมือใหม่
แต่สำหรับผู้ขับขี่มือเก๋า อาจจะต้องใช้วิธีการอมคันเร่งสักหน่อย เพื่อให้รถยังรักษากำลังเครื่องยนต์ได้อย่างต่อเนื่อง ในยามที่เราต้องการขี่รถแบบดุดัน เพื่อให้มันมีแรงบิดส่งให้ใช้งานอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ยังมีอาการสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์ ที่สามารถพบได้กับการขับขี่ในช่วงเกียร์ที่ไม่เหมาะสมกับความเร็ว อาทิเช่น ขี่เกียร์ 6 ที่ความเร็ว 40 หรือขี่เกียร์ 3 ที่ช่วงรอบเครื่องยนต์ 8,000 รอบ/นาที จะพบอาการสั่นของรถได้ค่อนข้างชัดเจน
สรุป Royal Enfield Guerrilla 450 เหมาะกับใคร?
Royal Enfield Guerrilla 450 เหมาะสำหรับคนที่กำลังมองหารถมอเตอร์ไซค์ที่มีดีไซน์คลาสสิก แต่ต้องจัดเต็มเรื่องของฟังก์ชั่นการขับขี่ที่ครบครัน และทันสมัย อัดแน่นด้วยระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่เน้นใช้งานจริง คันนี้ถือว่าตอบโจทย์ โดยเฉพาะผู้ขับขี่มือใหม่ ยังไม่มีประสบการณ์กับรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ คันนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เหมาะสม ส่วนผู้ขับขี่มือเก๋า ก็สามารถสนุกสนานไปกับการขับขี่เจ้ารถคันนี้ได้เช่นกัน
ราคา Royal Enfield Guerrilla 450
Royal Enfield Guerrilla 450 เปิดราคาในต่างประเทศ โดยราคาจำหน่ายของ Royal Enfield Guerrilla 450 เป็นดังนี้
- ราคาในอินเดีย เริ่มต้น 239,000 รูปี หรือราวๆ 103,000 บาท
- ราคาในอังกฤษ เริ่มต้น 4,850 ปอนด์ หรือราวๆ 227,000 บท
- ราคาในเยอรมัน เริ่มต้น 5,290 ยูโร หรือราวๆ 208,000 บาท
ตัวรถที่เปิดตัวในต่างประเทศมีทั้งหมด 3 รุ่นย่อย และมีราคาจำหน่ายดังต่อไปนี้
- Royal Enfield Guerrilla 450 Analogue ราคาในอินเดีย 239,000 รูปี, ราคาในอังกฤษ 4,850 ปอนด์, ราคาในเยอรมัน 5,290 ยูโร
- Royal Enfield Guerrilla 450 Dash ราคาในอินเดีย 249,000 รูปี, ราคาในอังกฤษ 4,995 ปอนด์, ราคาในเยอรมัน 5,340 ยูโร
- Royal Enfield Guerrilla 450 Flash ราคาในอินเดีย 254,000 รูปี, ราคาในอังกฤษ 5,050 ปอนด์, ราคาในเยอรมัน 5,540 ยูโร
สำหรับประเทศไทย ราคาจำหน่ายคาดว่าจะอยู่ราวๆ 170,000-180,000 บาท เนื่องจากในต่างประเทศ Royal Enfield Himalayan 450 จะมีราคาสูงกว่าราวๆ 42,000 บาท ต้องมารอดูกันว่าทางรอยัล เอ็นฟิลด์ประเทศไทย จะเลือกเปิดในระดับราคาใด ท่ามกลางคู่แข่งตัวเป้งอย่าง Triumph Speed 400 ที่เปิดราคาดักไว้ที่ 162,900 บาท
โดยมีจุดข้อสังเกตุคือ ทุกประเทศที่ Royal Guerrilla 450 เปิดราคาแล้ว ล้วนแล้วแต่เป็นประเทศที่ Triumph Speed 400 จำหน่ายอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งราคาของ Royal Enfield Guerrilla 450 เวอร์ชั่นต่างประเทศ จะใช้เป็นรุ่น Dash และ Flash ทำตลาดเป็นหลัก ซึ่งมีราคาจำหน่ายเดียวกันกับ Triumph Speed 400 แบบพอดีเป๊ะ
หมายความว่าราคาจำหน่าย Triumph Speed 400 ในไทย 162,900 บาทนี้ เราอาจจะได้เห็นราคา Triumph Guerrilla 450 เปิดมาในระดับเดียวกันกับ Triumph Speed 400 ก็เป็นได้
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
LINE
ความคิดเห็น