อัพเดทรถยนต์ไฟฟ้าจ่อคิวเข้าไทยในปี 2024-2025 Share this

อัพเดทรถยนต์ไฟฟ้าจ่อคิวเข้าไทยในปี 2024-2025

Sunuttinee Phumbanyen
โดย Sunuttinee Phumbanyen
โพสต์เมื่อ 18 July 2567

เปิดโผรถยนต์ไฟฟ้าจ่อคิวเข้าไทยในปี 2024-2025 จะมีแบรนด์ไหน รุ่นไหนบ้างนะ? ที่จะเข้ามาจัดจำหน่ายในบ้านเรา แว่วๆ มาว่ามีจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว ไปตามส่องกันดีกว่าว่ามีรุ่นไหนโดนใจบ้าง ถ้าพร้อมแล้วไปกันเล่ยยยย


อัพเดทรถยนต์ไฟฟ้าจ่อคิวเข้าไทยในปี 2024-2025

รถยนต์ไฟฟ้าหลากหลายค่ายต่อคิวเดินหน้าพร้อมวางแผนการตลาด สำหรับจัดจำหน่ายในประเทศไทยประมาณปี 2024-2025 ที่จะถึงนี้ ซึ่งต้องบอกเลยว่าเลดี้ก็รอชมข่าวคราวเกาะติดขอบสนามอยู่ตลอด วันนี้เลยรวมเอาโผรถยนต์ไฟฟ้าที่คาดว่าจะเข้าไทยในเร็วๆ นี้ มาอัพเดทเพิ่มเติมให้ชมกันค่ะ  

อัพเดทรถยนต์ไฟฟ้าจ่อคิวเข้าไทยในปี 2024-2025 (1)

เปิดโผรถยนต์ไฟฟ้าจ่อคิวเข้าไทย 2024-2025 

จากเดิมที่เลดี้มีการคาดการณ์เอาไว้ในช่วงปลายปี 2023 ว่ารถยนต์ไฟฟ้า 2024 เข้าไทย มีรุ่นไหนบ้าง มาถึง ณ เวลานี้บอกเลยว่าเหนือความคาดหมาย เพราะมันเยอะกว่าที่คิดไว้หน่ะสิ ซึ่งในปี 2024 นั้นผ่านมาครึ่งปีแล้ว เรามาอัพเดทข้อมูลใหม่ๆ กันดีกว่า ว่าแบรนด์ไหนจะติดโผจ่อคิวเข้าไทยกันบ้าง  

 

AION V

เริ่มต้นกันที่คันนี้เลย ข่าวจริงไม่มีมั่วและไม่ต้องนั่งลุ้น เพราะว่า AION V ของค่าย GAC ออกมาโชว์ตัวคันจริงพร้อมกับเปิดตัวโรงงานในไทยเมื่อวานนี้เอง ซึ่ง AION V เป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วนแบบ 100% ที่ถูกพัฒนาขึ้นบนพื้นฐาน AEP Pure Electric Digital Platform ทำให้มีพื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างและใหญ่ขึ้น โดยมีมิติตัวถังยาว 4,605 มิลลิเมตร กว้าง 1,854 มิลลิเมตร สูง 1,660 มิลลิเมตร และมีระยะฐานล้อ 2,775 มิลลิเมตร คู่แข่งตรงกับทาง KIA EV5 ที่มีขนาดใกล้เคียงกันมาก คือยาว 4,615 มิลลิเมตร กว้าง 1,875 มิลลิเมตร สูง 1,715 มิลลิเมตร และมีระยะฐานล้อ 2,750 มิลลิเมตร 

GAC AION V สามารถวิ่งได้ไกลถึง 750 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน CLTC) มาพร้อมกับแบตเตอรี่ 400V รุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมจัด Option ให้แบบล้นๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบช่วยการขับขี่ ADiGO Pilot ที่ทำงานร่วมกับชิปประมวลผล กล้อง 11 ตำแหน่ง และ LiDAR เทคโนโลยีที่ช่วยสร้าง Location Intelligence รอบคันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอื่นๆ อีกเพียบ โดยที่ GAC AION V วางแผนที่จะประกอบในไทยที่โรงงานจังหวัดระยอง พร้อมจัดจำหน่ายช่วงปลายปี 2024 ที่จะถึงนี้ คาดการณ์ราคาจำหน่ายที่ประมาณ 1 ล้านต้นๆ 

AION V (1)

AION V (2)

AION V (3)

AION V (4)

 

XPeng G6

XPeng อ่านเป็นภาษาไทยว่า "เสี่ยวเผิง" ผลิตโดยบริษัทสตาร์ทอัพจากประเทศจีน ซึ่งผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการในประเทศไทยไม่ใช่ใครอื่นไกล "MGC-ASIA" หรือ บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) นั่นเอง ซึ่ง XPeng G6 เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่สามารถวิ่งได้ไกล 755 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน CLTC) มาพร้อมกับแบตเตอรี่ 800V โดยมีมิติตัวถังยาว 4,753 มิลลิเมตร กว้าง 1,920 มิลลิเมตร สูง 1,650 มิลลิเมตร และมีระยะฐานล้อ 2,890 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นรถใน Segment เดียวกันกับทาง Tesla Model Y 

จุดเด่นของ XPeng G6 คือดีไซน์ที่มีความล้ำสมัย พัฒนาบน Platform SEPA 2.0 ที่ทั้งแข็งแรงและมีน้ำหนักเบา มีเทคโนโลยี Xpeng Navigation Guided Pilot (XNGP) หรือ ADAS (Advanced Driver Assistance Systems) ที่ประกอบด้วย Sensors ถึง 31 ตัว และ LiDAR 2 ตัว รวมไปถึง Computing Power มากสุดถึง 508 TOPS (Trillion Operations Per S econd) จากชิปประมวลผลความเร็วสูงของ Dual NVIDIA DRIVE Orin-X อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ ซึ่งคาดการณ์ราคาจำหน่ายในเบื้องต้น เริ่มต้นที่ 1.5 - 1.6 ล้านบาท 

XPeng G6 (1)

XPeng G6 (2)

XPeng G6 (3)

XPeng G6 (4)

 

JAECOO 6 EV

เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ทาง Chery Automobile วางแผนที่จะนำเข้ามาจัดจำหน่ายในประเทศไทย โดยมีทั้งรถยนต์ไฟฟ้าล้วนและปลั๊กอินไฮบริด ซึ่งสำหรับ JAECOO 6 EV เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่ประมาณการเข้ามาขายจริงในบ้านเราช่วงปลายปี หรือในไตรมาส 4 ที่จะถึงนี้  

สำหรับในรุ่น JAECOO 6 EV มีความจุพลังงานแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูง 69.8 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ผลิตพละกำลังสูงสุดที่ 279 แรงม้า แรงบิด 385 นิวตันเมตร ด้วยขนาดตัวถังที่ค่อนข้างใหญ่พอสมควร จึงทำให้สามารถขับขี่ด้วยระบบไฟฟ้าได้ไกลสูงสุด 470 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง (มาตรฐาน NEDC) ระยะเวลาในการชาร์จกระแสตรง DC จาก 30% - 80% ทำได้ภายใน 30 นาที สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายใน 6.5 วินาที ซึ่งถือว่าน่าประทับใจกับอัตราเร่งที่ทำได้ขนาดนี้ เมื่อเทียบกับขนาดของตัวถัง ส่วนข้อมูลด้านอื่นๆ ต้องรอช่วงเปิดตัวอีกทีค่ะ

JAECOO 6 EV (1)

JAECOO 6 EV (2)

JAECOO 6 EV (3)

JAECOO 6 EV (4)

JAECOO 6 EV (5)

 

Polestar 4

รถไฟฟ้าพรีเมี่ยมจากสวีเดน ซึ่งเป็นเจ้าของเดียวกันกับทาง Volvo Cars โดยถือสัดส่วนอยู่ที่ประมาณ 48.3% บริหารงานโดยผู้บริหารจากแบรนด์ดังชั้นนำระดับโลกจากหลากหลายประเทศ อาทิ Volvo Cars, Mercedes-Benz, Jaguar Land Rover และ NIO โดยที่ทาง Polestar ได้มีการวางแผนที่จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหลากหลายรุ่น หนึ่งในนั้นก็คือ Polestar 4 มีแว่วมาว่าจะนำเข้าจัดจำหน่ายที่ประเทศไทยเป็นรุ่นแรกๆ ในปี 2025 

Polestar 4 มีการออกแบบที่ล้ำสมัยทั้งภายนอกและภายใน มีพื้นที่ห้องโดยสารด้านหลังที่กว้างขวางเป็นพิเศษ ทำให้สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย ซึ่ง Polestar 4 ถือเป็นรถซีดานที่มีพื้นที่เหนือศรีษะมากพอสมควร ทำให้รู้สึกโล่งโปร่งสบาย วัสดุภายในประกอบด้วยพลาสติกรีไซเคิลในรูปแบบต่างๆ เช่น เบาะหุ้มแบบ Tailored Knit อันเป็นเอกลักษณ์ซึ่งผลิตจาก PET รีไซเคิล 100% ถักแบบ 3 มิติตามขนาดโดยปราศจากขยะ มาพร้อมกับระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง SuperVision (ADAS) ของ Mobileye และจะเป็นรถยนต์คันแรกที่ใช้ Mobileye Chauffeur ร่วมกับ Luminar LiDAR นอกจากนี้ยังมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำที่สุดในบรรดาพวกพ้อง ระบบส่งกำลังมีทั้งแบบ Single Motor และ Twin Motor ที่ให้กำลังสูงสุด 544 แรงม้า และมีแรงบิด 686 นิวตันเมตร สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร /ชั่วโมง ได้ภายในเวลา 3.8 วินาที

Polestar 4 (1)

Polestar 4 (2)

Polestar 4 (3)

Polestar 4 (4)

 

AVATR 11

AVATR เป็นผลงานผลิตโดยการร่วมทุนกันของ ChangAn, CATL และ Huawei สามยักษ์ใหญ่ในประเทศจีน ซึ่ง AVATR 11 ได้เข้ามาอวดโฉมให้แฟนคลับ ChangAn ชาวไทยได้เห็นคันจริงกันแล้วในงาน Motor Expo 2023 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าจับตามองและได้รับการตอบรับจากชาวไทยเป็นอย่างดี 

AVATR 11 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วน 100% ที่มาในรูปแบบโครงสร้างแบบ SUV ซึ่งได้รับการออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป และ Creative Director ของ Givenchy ผู้ออกแบบรถยนต์เด่นๆ หลายคัน อาทิ BMW 6 Series, BMW 7 Series ในส่วนของมิติตัวถัง AVATR 11 มีความยาว 4,880 มิลลิเมตร กว้าง 1,970 มิลลิเมตร สูง 1,601 มิลลิเมตร และมีระยะฐานล้อ 2,975 มิลลิเมตร มาพร้อมกับมอเตอร์ทั้งแบบ Single และ Twin Motor ที่ให้พละกำลังสูงสุด 570 แรงม้า แรงบิด 650 นิวตันเมตร สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายใน 3.6 วินาที แบตเตอรี่ขนาด 90 kWh / 116 kWh วิ่งได้ไกลสูงสุด 705 กิโลเมตร ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (มาตรฐาน CLTC) นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับโซลูชันยานยนต์อัจฉริยะเต็มรูปแบบจาก Huawei ที่ทำงานด้วยระบบ HarmonyOS และติดตั้งระบบช่วยเหลือการขับขี่ AVATRANS และระบบ GOD (General Obstacle Detection) network ที่ช่วยตรวจจับสิ่งกีดขวางได้ดีกว่าระบบทั่วๆ ไป คาดการณ์ราคาจำหน่ายโดยประมาณ ราวๆ 2 - 2.5 ล้านบาท

AVATR 11 (1)

AVATR 11 (2)

AVATR 11 (3)

AVATR 11 (4)

 

NETA S

ปิดท้ายกันด้วยรถยนต์ไฟฟ้า Sporty Smart Coupe จากค่าย NETA อย่างในรุ่น S ซึ่งมีการเปิดตัวในจีนได้ไม่นาน มีดีไซน์สปอร์ตคูเป้ ล้ำสมัย โดดเด่นด้วยประตูเปิดแบบปีกนก วางแผนจะจัดจำหน่ายที่ประเทศไทยในรุ่น Special Version มีมิติตัวถังยาว 4,980 มิลลิเมตร กว้าง 1,980 มิลลิเมตร สูง 1,450 มิลลิเมตร และมีระยะฐานล้อ 2,980 มิลลิเมตร มาพร้อมกับเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะมากมาย อาทิ ชิปประมวลผล Snapdragon Chip เจเนอเรชั่นที่ 3 (Qualcomm Snapdragon 8155), NETA Pilot 4.0 เทียบเท่าระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ Autonomous Driving L4, ระบบประมวลผล Huawei MDC610 High Performance Computing Platfor, ระบบช่วยเหลือในการขับขี่สาหรับขับขี่ในเมือง NCP Nezha City Pilot Assistance, ระบบช่วยเหลือในการขับขี่เมื่อความเร็วสูง NHP Nezha High-Speed Pilot Assistance,  ระบบจดจำที่จอดรถ NMP Nezha Memory Parking, ระบบเรียกรถอัตโนมัติ NMS Nezha Magic Summon และ ระบบช่วยเหลือในการขับขี่ 30 ตำแหน่งประกอบด้วย LiDAR 2 ตำแหน่ง, กล้องรอบคัน 11 ตำแหน่ง, เรดาร์แบบ Millimeter Wave Radar 5 ตำแหน่ง และเรดาร์แบบอัลตราโซนิค 12 ตำแหน่ง ทำงานด้วยการใช้ชิป Huawei บนแพลตฟอร์มอัจฉริยะ MDC ที่สามารถประมวลผล 200 ล้านคำสั่งภายใน 1 วินาที (TOPS)

NETA S ผลิตพละกำลังสูงสุดได้ 462 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 620 นิวตันเมตร จากแบตเตอรี่ Lithium-Ion ขนาด 91 kWh ทำงานควบคู่กับระบบส่งกำลัง Twin Motor ขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุด 650 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน CLTC) อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทำได้ในเวลา 3.9 วินาที คาดการณ์ราคาจำหน่าย คร่าวๆ ไม่เกิน 2 ล้านบาท 

NETA S (1)

NETA S (2)

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน


คำนวณค่างวดรถเบื้องต้น
Use the calculator to calculate the installment of your dream car
ระยะเวลาผ่อนชำระ (เดือน)
* ราคาค่างวดรวม VAT แล้ว สำหรับพิจารณาข้อมูลเบื้องต้น ไม่สามารถนำไปอ้างอิงในการซื้อขายได้
อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ 1.98% - 5.25% (เทียบเท่าอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก 3.81% - 9.80% ต่อปี)
อัตราการผ่อนชำระ (เดือน)
บาท
จำนวนงวด (เดือน)
สนใจขอสินเชื่อรุ่นนี้
* ราคาค่างวดรวม VAT แล้ว สำหรับพิจารณาข้อมูลเบื้องต้น ไม่สามารถนำไปอ้างอิงในการซื้อขายได้
อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ 1.98% - 5.25% (เทียบเท่าอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก 3.81% - 9.80% ต่อปี)

ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ