รีวิว Honda HR-V 2022 ความกลมกล่อม ที่ลงตัว  Share this
รีวิวรถยนต์
โหมดการอ่าน

รีวิว Honda HR-V 2022 ความกลมกล่อม ที่ลงตัว 

วรัญญู ยอดพรหม
โพสต์เมื่อ 28 November 2564

รถยนต์ Honda HR-V ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ เปิดอย่างเป็นทางการ กับการเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด ต่อยอดความสำเร็จเป็นหนึ่งในรถที่ได้รับความนิยมสูงสุด กับราคาค่าตัวเริ่มต้น 979,000 บาท


Honda HR-V e:HEV รีวิว

รอคอยกันอยู่พักใหญ่กับการเปลี่ยนโฉม ของ Honda HR-V รถ SUV ขนาดกลาง ซึ่งเป็นตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว มีคู่แข่งเข้าสู่ตลาดนี้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องและเชื่อว่าในปีหน้านี้ ก็จะมีเพิ่มเติมเข้ามาอีกด้วยเช่นกัน แต่สำหรับ HR-V เป็นรถที่ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่องด้วยรูปร่างหน้าตา และสมรรถนะที่ดี 

ซื้อรถ Honda HR-V มือสองกับ CARSOME การันตีคุณภาพรถยนต์ ผ่านการตรวจสภาพ 175 จุด พร้อมรับประกันสูงสุด 2 ปีเต็ม ราคาคงที่ ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง ซื้อไปแล้วไม่พอใจ การันตีคืนเงินเต็มจำนวนภายใน 30 วัน


 Honda HR-V e:HEV

จุดเด่นสำหรับ Honda HR-V e:HEV ใหม่

ภายในห้องโดยสาร Honda HR-V e:HEV ที่กว้างขวางสะดวกสบาย มาพร้อมเอกลักษณ์ความอเนกประสงค์กับเบาะนั่งที่ปรับพับเพื่อเพิ่มสเปซการใช้งานได้ดั่งใจ มาพร้อมเทคโนโลยีระดับพรีเมียม ทั้งระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV และเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ทั้งไลน์อัป
เพิ่มระบบ ความปลอดภัย อาทิ ครั้งแรกของรถยนต์ฮอนด้าในประเทศไทยกับ ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control: HDC) ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) และระบบ Auto Brake Hold ที่ได้รับการพัฒนา ครั้งแรกกับฝากระโปรงท้ายไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี พร้อมระบบปิดอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Hands-free Power Tailgate with Walk Away Close) 


การออกแบบภายนอก Honda HR-V e:HEV

ดีไซน์ภายนอก Honda HR-V e:HEV โดดเด่นในสไตล์สปอร์ตคูเป้  มอบความรู้สึกแข็งแกร่งและมีพลัง พร้อมด้วยการปรับตำแหน่งของเสา A ที่ช่วยให้กระโปรงหน้าดูลาดยาวยิ่งขึ้น ตอบรับกับการใช้เส้นสายในแนวนอนที่ยาวต่อเนื่อง
จากไฟหน้าไปจนถึงไฟท้าย มอบความรู้สึกสปอร์ตโฉบเฉี่ยวล้ำสมัย อีกทั้งด้านหลังมาพร้อมดีไซน์ท้ายลาดสไตล์ Fastback ที่ผสานการออกแบบเข้ากับหลักอากาศพลศาสตร์ไว้อย่างลงตัว 

  • กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ ที่สะท้อนสไตล์ที่แตกต่างอย่างโดดเด่น โดยมาพร้อมสีเดียวกับตัวรถ (รุ่น e:HEV EL) และสีดำเงา (รุ่น e:HEV E) 
  • กันชนหน้าและหลังดีไซน์ใหม่
  • ไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED Light Strip ที่เชื่อมต่อกับไฟเบรกเป็นเส้นแนวยาว อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น
  • ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED (รุ่น e:HEV EL และรุ่น e:HEV RS)
  • สปอยเลอร์หลังแบบสปอร์ต
  • เสาอากาศครีบฉลาม
  • ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 17 นิ้ว (รุ่น e:HEV E และรุ่น e:HEV EL)
  • โลโก้ H Mark ตกแต่งกรอบสีฟ้า และสัญลักษณ์ e:HEV ที่ด้านท้าย สะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นยนตรกรรมไฮบริด

ครั้งแรกในรุ่น RS ยกระดับความสปอร์ตพรีเมียมไปอีกขั้น ด้วยดีไซน์เอกซ์คลูซีฟรอบคัน 

  • โดดเด่นด้วยกระจังหน้าโครเมียมแบบสปอร์ต พร้อมสัญลักษณ์ RS 
  • สัญลักษณ์ AMP UP บนกันชนหน้าด้านล่าง สะท้อนพลังใหม่ที่แตกต่าง
  • กันชนหน้า-หลัง พร้อมชายกันกระแทกด้านข้างสีดำแบบสปอร์ตตกแต่งด้วยโครเมียม
  • ไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED
  • ไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential 
  • ไฟท้ายแบบ LED Light Strip สี Smoke
  • ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 18 นิ้ว
  • เผยมุมมองใหม่ด้วยหลังคากระจกแบบพาโนรามา (Panoramic Glass Roof)

พิเศษยิ่งขึ้นกับสีภายนอก สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) ที่มาพร้อมหลังคาสีดำสไตล์ทูโทน สะท้อนความสปอร์ตไปอีกขั้น 


การออกแบบภายใน Honda HR-V e:HEV

ภายในห้องโดยสาร Honda HR-V e:HEV มุ่งเน้นผู้ใช้งานเป็นศูนย์กลาง ที่กว้างขวาง สะดวกสบายในทุกที่นั่ง โดยบริเวณคอนโซลหน้ามีการใช้เส้นสายแนวนอน พร้อมผิวสัมผัสที่เรียบ ผนวกกับการออกแบบที่ให้แสงภายนอกให้เข้าสู่ห้องโดยสาร ส่งผลให้ห้องโดยสารโปร่งโล่ง 


อีกทั้งมีการจัดวางเลย์เอาต์และฟังก์ชันการใช้งานต่างๆ ด้วยระบบปรับอากาศอัตโนมัติ (Automatic Air Conditioning) ที่มาพร้อมระบบ Air Diffusion System โดยช่องปรับอากาศได้รับการปรับดีไซน์ใหม่ มอบทิศทางลมที่หมุนเวียนอย่างมีประสิทธิภาพ กระจายลมได้อย่างเหมาะสม ทั่วถึงทั้งห้องโดยสาร พร้อมด้วยช่องปรับอากาศตอนหลัง (เฉพาะรุ่น e:HEV EL และรุ่น e:HEV RS) 


ภายในห้องโดยสารทุกรุ่นมาพร้อมเบาะหนังดีไซน์ใหม่สีดำ ที่ออกแบบให้โอบรับกับสรีระของผู้นั่งได้ดียิ่งขึ้น โดยใน รุ่น RS มาพร้อมเบาะหนังสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดงแบบสปอร์ต แป้นเบรกและแป้นคันเร่งสไตล์สปอร์ต และ พวงมาลัยสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง 

คงเอกลักษณ์ความอเนกประสงค์ไว้ได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยเบาะนั่งด้านหลังแบบอเนกประสงค์ แยกพับแบบ 60:40 ที่สามารถปรับพับได้หลากหลายเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้อย่างสูงสุด โดยสามารถปรับเปลี่ยนได้ 3 รูปแบบ พร้อมห้องสัมภาระท้ายขนาดใหญ่ ได้แก่ 


Utility Mode: เบาะด้านหลังทั้ง 2 ด้านปรับพับเรียบ เพิ่มพื้นที่เก็บของด้านหลัง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของฮอนด้า ที่เบาะผู้โดยสารด้านหลังสามารถพับลงแนวราบได้เรียบ ช่วยเพิ่มพื้นที่สัมภาระด้านท้าย

Long Mode: เบาะด้านหน้าและด้านหลังปรับพับ เพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวยาว

Tall Mode: ซึ่งนับเป็นเอกลักษณ์ความอเนกประสงค์ที่โดดเด่นของ ฮอนด้า ที่สามารถพับเบาะด้านหลังขึ้น 
เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวสูง ซึ่งมีเพียงฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ รุ่นเดียวในเซกเมนต์ที่สามารถพับเบาะในโหมดนี้ได้

ใหม่ ฝากระโปรงท้ายไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี พร้อมระบบปิดอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Hands-free Power Tailgate with Walk Away Close) อำนวยความสะดวกขึ้นอีกขั้น เพียงสอดเท้าไปที่เซนเซอร์บริเวณใต้กันชนด้านหลัง ระบบจะเปิดฝากระโปรงท้ายโดยอัตโนมัติ จากนั้นจึงกดสวิตช์ปิด พร้อมทั้งหยิบสัมภาระออกจากท้ายรถ และเดินออกห่างจากตัวรถ ระบบจะทำการปิดฝากระโปรงท้ายลงโดยอัตโนมัติ โดยขณะใช้งานจะต้องมีกุญแจรีโมทอยู่กับตัว และอยู่ห่างจากตัวรถอย่างน้อย 1 เมตร (รุ่น e:HEV EL และรุ่น e:HEV RS)

  • ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto
  • มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว 
  • ช่องปรับอากาศตอนหลัง (รุ่น e:HEV EL และรุ่น e:HEV RS)
  • อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS)
  • ลำโพง 8 ตำแหน่ง (รุ่น e:HEV RS) ลำโพง 6 ตำแหน่ง (รุ่น e:HEV EL) และ ลำโพง 4 ตำแหน่ง (รุ่น e:HEV E) 

ซื้อรถ Honda มือสอง มั่นใจ ได้มาตรฐาน ต้อง CARSOME

  • ไฟอ่านหนังสือด้านหลังแบบ LED เปิด-ปิดแบบสัมผัส (เฉพาะรุ่น e:HEV RS)
  • เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง (เฉพาะรุ่น e:HEV RS) 
  • แผ่นกั้นห้องสัมภาระท้าย (เฉพาะรุ่น e:HEV RS)
  • ช่องเชื่อมต่อ USB จำนวน 4 ช่อง ด้านหน้า 2 ช่อง และด้านหลัง 2 ช่อง (เฉพาะรุ่น e:HEV RS) และช่องเชื่อมต่อ USB ด้านหน้า จำนวน 2 ช่อง (รุ่น e:HEV E และรุ่น e:HEV EL)
  • พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียง, ปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ และปุ่มควบคุม

ขุมพลังของ ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ ในทุกรุ่นย่อย

Honda HR-V ขับเคลื่อนด้วยระบบฟูลไฮบริด e:HEV ที่ผสานการทำงาน อันทรงพลังร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive)

กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC  i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และชุดหน่วยควบคุมอัจฉริยะ (Intelligent Power Unit - IPU) ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ซึ่งมีน้ำหนักเบาและ ขนาดกะทัดรัด สามารถเก็บประจุไฟ และช่วยให้การชาร์จไฟเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

อีกทั้งสามารถชาร์จไฟเข้าสู่แบตเตอรี่โดยอัตโนมัติในขณะขับขี่ โดยมอเตอร์ไฟฟ้าทั้ง 2 ตัว มอบกำลังสูงสุดทั้งระบบได้ถึง 131 แรงม้า ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ที่ 0-3,500 รอบต่อนาที

ให้อัตราการประหยัดน้ำมัน ดีเยี่ยมถึง 25.6 กิโลเมตร/ลิตร และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 94 กรัม/กิโลเมตร 

ระบบ e:HEV มาพร้อมโหมดการขับขี่ 3 โหมด ได้แก่ 

1. โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode)

โดยมอเตอร์จะขับเคลื่อนล้อด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ มอบอัตราเร่งที่ดีเยี่ยม ออกตัวได้อย่างรวดเร็วทันใจโดยไม่ต้องรอรอบ เป็นระบบที่เหมาะสมกับการขับขี่ในเมือง โดยแบตเตอรี่ที่ได้รับการพัฒนาให้มีความจุมากยิ่งขึ้น ช่วยให้สามารถขับขี่ในโหมดการขับขี่ด้วย

2. โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode)

โดยระบบจะขับเคลื่อนโดยใช้พลังงานไฟฟ้าที่เกิดจากเครื่องยนต์และแบตเตอรี่ ผสานกำลังในการขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้เกิดแรงบิดสูงสุดอย่างรวดเร็ว มอบอัตราเร่งที่นุ่มนวลและทรงพลัง

3. โหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)

โดยชุดล็อกอัพคลัตช์ที่อยู่ในเกียร์ E-CVT จะเชื่อมต่อเครื่องยนต์และส่งกำลังไปยังล้อโดยตรง ซึ่งให้ประสิทธิภาพสูงและมีแรงเสียดทานต่ำ เป็นระบบที่เหมาะสมกับการขับขี่โดยใช้ความเร็วสูงคงที่ เสริมความมั่นใจยิ่งขึ้นด้วยการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง 

โดย Honda HR-V e:HEV ทุกรุ่นย่อย ยังมาพร้อมกับสวิตช์ฟังก์ชัน Drive Mode ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้อย่างง่ายดายตามความต้องการ ซึ่งมีให้เลือก 3 โหมด ได้แก่

  1. ECON Mode - โหมดการขับขี่แบบประหยัด พร้อมปรับการทำงานของเครื่องยนต์ให้สัมพันธ์กับการขับขี่เพื่ออัตราการประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้น ตามรูปแบบการขับขี่
  2. Normal Mode - โหมดการขับขี่แบบปกติ สำหรับการขับขี่ใช้งานโดยทั่วไป
  3. Sport Mode - โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต ที่ช่วยปรับการทำงานของเครื่องยนต์ให้พร้อมตอบสนองการเร่งได้ดียิ่งขึ้น เพื่อการขับขี่ที่สนุกเร้าใจ

นอกจากนี้ ยังมาพร้อมระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors) ที่เหมาะกับการใช้งานบนถนนในทุกสภาวะการขับขี่ ให้ทั้งความสนุกสนานในการขับขี่ควบคู่ไปกับความปลอดภัย

รีวิวทดสอบ Honda HR-V e:HEV

ฮอนด้าได้จัดกิจกรรมทดสอบ เส้นทาง กรุงเทพฯ-หัวหิน เพื่อให้ได้สัมผัสกับสมรรถนะแบบยาวๆ รถที่ใช้ในการทดสอบทั้งหมดเป็น Honda HR-V รุ่น RS ทั้งหมด ดังนั้นจึงอาจจะไม่ทราบความแตกต่างระหว่างรุ่นเริ่มต้นกับตัว RS เพราะในรุ่น E,EL จุดที่แตกต่างหลักคือช่วงล่างและล้อที่มีขนาด 17 นิ้ว แต่ในส่วนของเครื่องยนต์นั้นเหมือนกัน

รีวิว Honda HR-V e:HEV

ออกเดินทางจาก กรุงเทพฯ ขึ้นทางด่วนวงแหวนเพื่อเข้าเส้นพระราม 2 สอง รถติดตลอดทาง เราจึงได้ทดสอบ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ซึ่งสามารถทำได้จนถึงจุดหยุดนิ่ง แต่เวลารถคันหน้าออกต้องเติมคันเร่งช่วย เป็นสิ่งที่ช่วยเหลือสำหรับชีวิตคนเมืองที่ต้องอยู่กับรถติดตลอดเวลาถือว่าเป็นสิ่งที่ดีมาก 

ส่วนเครื่องยนต์ทำงานได้อย่างราบเรียบตัดต่อได้ดีในแบบที่เรียกว่าจับอาการไม่ได้เลย เครื่องยนต์ตัดสลับไปเป็นมอเตอร์ตอนไหน ผ่านออกจากรถติดวิ่งบนถนนหลวงใช้ความเร็วเพิ่มขึ้น ตัวรถให้อัตราเร่งตอบสนองได้เป็นอย่างดี และยิ่งในช่วงเร่งแซงรถมีพละกำลังที่ทันใจมาก แต่ติดตรงที่เสียงของเครื่องยนต์เวลาเร่งในความเร็วสูงนั้นเสียงของเครื่องยนต์ดังเข้าห้องโดยสารมากไปหน่อย แต่ถ้าวิ่งลอยๆเงียบปกติ กดคันเร่งเต็มที่ความเร็วสูงสุดถูกจำกัดไว้ที่ 170 km ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว

เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ในการวิ่งในโหมดต่างๆนั้นรู้สึกได้ถึงความแตกต่างกัน แต่จะให้รู้สึกได้ถึงความต่างเลยก็ต้องเป็น Sport ที่คันเร่งตอบสนองได้อย่างทันใจ กดมาตลอด กับ ECO คันเร่งก็จะหน่วงลงอย่างชัดเจนเน้นให้การประหยัดพลังงานเป็นหลัก วิ่งได้ระยะนึงใกล้ถึงหัวหินมองที่จอ เพื่อดูอัตราการกินน้ำมัน 18Km/L ถือว่าทำตัวเลขออกมาได้ดีมากแม้ว่าจะขับขี่แบบไม่ได้เน้นประหยัดก็ตาม

โดยหลักการทำงานหลักของ อี:เอชอีวี ฮอนด้า มอเตอร์จะเข้ามาช่วยในจังหวะที่เราต้องการพลังงานมาก ออกตัว ขึ้นเขา เร่งแซง ถ้าวิ่งแบบความเร็วคงที่ เครื่องยนต์จะเข้ามาทำงานเพื่อรักษากำลังไฟให้คงที่ใช้เมื่อจำเป็น โดยการตัดต่อพลังงานทั้งหมดจะถูกควบคุมโดยกล่อง ECU เพื่อให้การประหยัดมากที่สุด


การควบคุมรถสำหรับในรุ่น RS พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า พร้อมอัตราทดเกียร์แบบแปรผัน(มีเฉพาะในรุ่นRS) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีของระบบนี้ พวงมาลัยควบคุมได้ง่าย ในความเร็วต่ำและมีน้ำหนักที่ดีในความเร็วสูงถือว่าลงตัว ส่วนของช่วงล่างที่ได้รับการออกแบบใหม่ นี้ถ้าเทียบกับตัวเก่าบอกได้เลยว่ารถคนละคัน มีความแตกต่างชัดเจนมาก ปรับเซ็ตออกแบบแนวนุ่มหนึบ ถือว่าเป็นจะแข็งเลยก็ว่าได้ 

คำถามยอดฮิตตั้งแต่เปิดตัว กับ หลังคากระจกแบบพาโนรามา (Panoramic Glass Roof) ร้อนไหม จากวันที่ทางทีมงานได้ทดสอบแดดน้อยมากแต่ก็รู้สึกได้ถึงไอร้อนเบาๆ คาดว่าในวันที่แดดจัดก็คงต้องปิดม่านเพื่อลดความร้อนลงอยู่ดี 

ระบบความปลอดภัย  ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) มีให้ทุกรุ่นย่อย 


โดยมีฟังก์ชันการทำงานหลักๆ ดังนี้

ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)

ระบบช่วยเตือนผู้ขับขี่ให้ลดความเร็วเมื่อมีรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน หรือคนเดินถนนที่อยู่ในระยะ
ไม่ปลอดภัย โดยระบบจะแจ้งเตือนผ่านหน้าจอแสดงข้อมูลและสัญญาณเสียง รวมถึงมีการสั่นเตือน
ของพวงมาลัยในกรณีรถสวนทาง ซึ่งหากผู้ขับขี่ยังไม่ตอบสนอง หรือในกรณีที่อยู่ในระยะเสี่ยงต่อการชน 
ระบบจะช่วยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ เพื่อหลีกเลี่ยงการชนหรือลดความรุนแรงจากอุบัติเหตุ

ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)

กล้องด้านหน้าจะทำการตรวจจับเส้นแบ่งช่องทางเดินรถ ซึ่งระบบจะช่วยเพิ่มแรงหน่วงของพวงมาลัย เพื่อช่วย
ผู้ขับขี่ควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางปกติ และลดอาการเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่

ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)

ระบบจะใช้กล้องด้านหน้าในการตรวจจับเส้นแบ่งช่องทางจราจร หากพบว่ารถอยู่ในสภาวะเบี่ยงออกนอกช่องทางโดยไม่ตั้งใจ ระบบจะส่งสัญญาณเตือนที่หน้าจอแสดงข้อมูลพร้อมการสั่นเตือนของพวงมาลัย และในกรณีที่รถเริ่มเบี่ยงออกนอกช่องทางมากยิ่งขึ้น ระบบจะช่วยหน่วงพวงมาลัย เพื่อให้รถกลับเข้าสู่ช่องทางปกติ ช่วยลดความเสี่ยงที่รถจะออกนอกช่องทางจราจร

ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)

ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติด้วยกล้อง โดยจะปรับเป็นไฟสูงเมื่อขับขี่ในที่มืด และจะปรับเป็นไฟต่ำเมื่อตรวจจับได้ว่ามีรถสวนทางหรือรถยนต์ด้านหน้า

ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF) 

ระบบช่วยควบคุมความเร็วของรถให้คงที่ตามที่ผู้ขับขี่ตั้งค่าไว้ และระบบจะปรับความเร็วอัตโนมัติ โดยมีกล้องตรวจจับรถคันหน้าเพื่อรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าอย่างเหมาะสม และในการขับขี่ที่ความเร็วต่ำ ระบบจะช่วยปรับความเร็วให้รถเคลื่อนที่ตามรถคันหน้า รวมถึงเบรกและหยุดตามอัตโนมัติ ระบบจะเริ่มทำงานอีกครั้งเมื่อผู้ขับขี่กดปุ่มที่พวงมาลัยหรือเหยียบคันเร่ง

ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)

ระบบที่ตรวจจับการเคลื่อนที่ของรถคันหน้า โดยระบบจะแจ้งเตือนผ่านหน้าจอแสดงข้อมูลและสัญญาณเสียง เพื่อให้ผู้ขับขี่เคลื่อนที่ตามรถคันหน้า

พร้อมด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอันล้ำสมัยและเทคโนโลยีด้านการขับขี่ระดับพรีเมียม อาทิ ครั้งแรกของรถยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย กับระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control: HDC) ระบบที่ทำงานเพื่อช่วยควบคุมคันเร่งและเบรก เพื่อรักษาความเร็วได้อย่างเหมาะสมเมื่อขับรถลงจากทางลาดชัน โดยระบบจะทำงานที่ความเร็วต่ำกว่า 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (กม./ชม.)

สรุป รีวิว ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่

แน่นอนตลาดนี้เดือด เพราะมีคู่แข่งหน้าใหม่เข้ามาในตลาดและก็มีดีหลายอย่างมาก ทำให้การเตรียมตัวของ Honda HR-V e:HEV ถือว่าดีขึ้นมากจากรุ่นเดิมแต่ในส่วนของ หน้าตานั้น ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล 

ข้อดี Honda HR-V

  1. ช่วงล่างมีความนุ่มหนึบ เหมาะกับครอบครัว
  2. ภายในที่ใครก็ไม่สามารถทำตามได้คือ เบาะสามารถปรับเปลี่ยนได้ 3 รูปแบบ
  3. เครื่องยนต์ประหยัดน้ำมัน
  4. ระบบ Honda SENSING มีให้ทุกรุ่น 
  5. ฝาท้ายรถออกแบบให้เปิดปิดได้หลากหลาย

ข้อเสีย Honda HR-V

  1. กล้องไม่ชัด ไม่มีเซ็นเซอร์ถอย ไม่มีกล้อง 360 องศา
  2. เสียงเครื่องยนต์เวลาเร่งดังเข้าห้องโดยสารเยอะ
  3. รุ่น E ไม่มีแอร์หลัง คาดว่าร้อนเพราะห้องโดยสารมีขนาดใหญ่

ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ได้แก่

  1. Honda HR-V รุ่น e:HEV RS ราคา 1,179,000 บาท
  2. Honda HR-V รุ่น e:HEV EL ราคา 1,079,000 บาท
  3. Honda HR-V รุ่น e:HEV E ราคา 979,000 บาท

ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ มาพร้อมสีภายนอกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีใหม่ สีขาวพรีเมียมซันไลท์ (มุก) และสีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) พร้อมด้วยสีขาวแพลทินัม (มุก) และ สีดำคริสตัล (มุก) ในทุกรุ่นย่อย พิเศษสำหรับสีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) ที่มาพร้อมหลังคาสีดำสไตล์ทูโทน เฉพาะรุ่น e:HEV RS

----

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ ตรวจสอบราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ไปกับเรา Autospinn

สำหรับใครที่กำลังมองหารถยนต์ Honda HR-V มือสอง คุณภาพดี สามารถเข้าไปดูรายละเอียดโปรโมชัน และเช็คราคารถมือสองได้ที่: ตลาดรถ one2car แหล่งรวมรถ Honda HRV มือสอง มีรถมาใหม่ทุกวัน


คำนวณค่างวดรถเบื้องต้น
Use the calculator to calculate the installment of your dream car
ระยะเวลาผ่อนชำระ (เดือน)
* ราคาค่างวดรวม VAT แล้ว สำหรับพิจารณาข้อมูลเบื้องต้น ไม่สามารถนำไปอ้างอิงในการซื้อขายได้
อัตราการผ่อนชำระ (เดือน)
บาท
จำนวนงวด (เดือน)
สนใจขอสินเชื่อรุ่นนี้
* ราคาค่างวดรวม VAT แล้ว สำหรับพิจารณาข้อมูลเบื้องต้น ไม่สามารถนำไปอ้างอิงในการซื้อขายได้

ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ