Tesla ประเทศไทย เข้ามาจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ 2 รุ่น ได้แก่ Model 3 และ Model Y ครบทุกรุ่นย่อย ทั้ง RWD, Long Range และ Performance โดยมีการจำหน่ายระบบช่วยขับขี่เพิ่มเติมได้แก่ EAP และ FSD วันนี้เรามาดูกันว่า EAP ราคา 1.22 แสนบาท น่าใช้งานมากแค่ไหน?
EAP คืออะไร
EAP หรือชื่อเต็มว่าระบบ Enhanced Autopilot เป็นระบบที่ช่วยเพิ่มความสามารถของตัวรถให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยรถยนต์ไฟฟ้า Tesla ทุกคัน จะมีระบบ Autopilot เป็นโปรแกรมมาตรฐานอยู่แล้ว ซึ่ง Autopilot ของเทสลา หากเปรียบเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้ออื่นๆ มันก็คือระบบเดียวกับ Adaptive Cruise Control + Lane Keeping + Auto steering นั่นเอง เพียงแต่รวมเป็นชื่อเดียวในนามว่า Autopilot ส่วนหลักการทำงานนั้นจะให้ผลลัพท์เหมือนกัน
ทว่า EAP คือการเพิ่มความสามารถของ Autopilot ไปอีกขั้น ด้วยฟีเจอร์ช่วยเหลือการใช้งานที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยใช้งานจริงเป็นอย่างไรนั้น เราจะทำการทดสอบไว้ที่ด้านล่างของบทความ
-
การนำทางเมื่อใช้ Autopilot
ระบบขับขี่อัตโนมัติตั้งแต่ทางเข้าทางหลวงไปถึงทางออกประกอบด้วยการเปลี่ยนเลนอัตโนมัติ ครูสคอนโทรลแบบปรับตามสภาพจราจร (TACC) ถึงจุดหยุดนิ่ง ระบบความคุมพวงมาลัยอัตโนมัติ และการแซงรถที่ขับช้าในเลนของคุณ
-
เปลี่ยนช่องจราจรอัตโนมัติ
ขณะขับรถบนทางหลวง ระบบช่วยเปลี่ยนเลนอัตโนมัติจะจัดตำแหน่งรถของคุณในเลนที่เหมาะสมที่สุดเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนเลนในขณะที่แซงรถที่ขับช้า ผู้ขับขี่จะได้รับข้อมูลเชิงลึกที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนช่องจราจรที่กำลังจะเกิดขึ้น รวมถึงการปรับแต่งฟังก์ชันการเปลี่ยนช่องจราจรอัตโนมัติ
-
ระบบจอดรถอัตโนมัติ
จอดรถอย่างง่ายดายในพื้นที่จอดทั้งแบบขนานและเข้าช่องจอดด้วยการแตะเพียงปุ่มเดียวบนจอแสดงผลกลาง Model Y จะแจ้งเตือนให้คุณทราบถึงจุดจอดรถที่ว่างโดยการตรวจสอบพื้นที่รอบตัวคุณอย่างต่อเนื่อง
-
Summon
เมื่อถูกเปิดใช้งานโดยแอป Tesla รถที่จอดอยู่จะหาคุณเจอได้ทุกที่ในลานจอดรถ รวมถึงจอดหรือออกจากช่องจอดรถในที่แคบด้วย ระบบ Smart Summon จะช่วยนำทางในสถานการณ์การจอดรถที่ซับซ้อน โดยปฏิบัติตามเส้นจราจรและป้ายหยุด หลบหลีกคนเดินเท้า และสิ่งกีดขวาง เช่น กรวยจราจร ถังขยะ และรถเข็นช็อปปิ้งขนาดใหญ่
ข้อมูลจากเว็บไซต์ของ เทสลา ประเทศไทย
EAP ใช้งานจริง
ด้านการใช้งานระบบ EAP ในสถานการณ์จริงกับการขับขี่บนท้องถนนของประเทศไทย เราขอให้นิยามกับระบบนี้ง่ายๆ ได้เลยว่า มันเป็นการขับรถด้วยไฟเลี้ยว !!! เพราะคุณแทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย เนื่องจากตัวระบบสามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้
- จัดการเรื่องความเร็วให้ทั้งหมด ทั้งการเร่งและลดความเร็ว ให้เหมาะสมกับความเร็วที่เราตั้งไว้, รัศมีความโค้ง และความเร็วของรถคันหน้า
- ควบคุมพวงมาลัยให้ในหลายสถานการณ์ที่มีช่องจราจรนำไป ยกเว้นการเลี้ยวมุมแคบ อาทิเช่น เลี้ยวเข้าซอย อันนี้ต้องบังคับเอง
- สามารถเปลี่ยนเลนให้โดยอัตโนมัติได้ เพียงคุณเปิดไฟเลี้ยวไปในทิศทางที่คุณต้องการ ระบบจะตรวจสอบสภาพช่องทางจราจรให้โดยอัตโนมัติว่าสามารถเข้าไปได้โดยปลอดภัยหรือไม่ มีรถยนต์ในระยะทำการหรือไม่ หากทุกอย่างปลอดโปร่ง ระบบจะพารถเข้าเลนใหม่โดยอัตโนมัติ หรือถ้ามีรถยนต์เข้ามาใกล้เกินไป ระบบก็จะรอจนกว่ารถคันนั้นจะพ้นไป จึงจะพาเข้าเลนได้
- เมื่อเราเปิดระบบนำทางของตัวรถ ระบบสามารถแนะนำช่องทางเดินรถที่ต้องขับอย่างถูกต้องได้
- หากคุณขับรถแช่เลนขวา ระบบจะเตือนให้คุณหลบออกจากเลนขวา เนื่องจากเลนขวามีไว้แซง ไม่ได้มีไว้แช่แต่อย่างใด !
โดยจากการทดสอบของเรา พบว่ารถยอมให้เราไม่จับพวงมาลัยได้นานมากๆ สูงสุดเกือบๆ 5 นาทีในบางสถานการณ์เลยทีเดียว โดยเฉพาะกรณีที่มีการเปลี่ยนเลนค่อนข้างบ่อยมากๆ ในการจราจรที่ติดขัดแบบในเมือง ระบบจะปล่อยให้เราไม่จับพวงมาลัยได้นานมากเลยทีเดียว
กลับกัน หากเป็นการขับทางไกล เพียงคุณปล่อยมือจากพวงมาลัยยังไม่ถึงนาที ระบบก็จะเตือนให้คุณจับพวงมาลัยแล้ว ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยเป็นสำคัญ
Tesla Summon ได้ใช้ไหม?
ในส่วนของระบบ Summon หรือระบบเรียกรถมารับนั้น เอาเข้าจริงๆ แล้วโอกาสที่เราจะใช้งานมันค่อนข้างน้อยมากๆ เนื่องจากจุดที่มันสามารถใช้งานได้ ต้องมีพื้นที่สำหรับขับกว้างเพียงพอ และควรเป็นพื้นที่โล่งแจ้ง เนื่องจากระบบใช้วิธีนำทางผ่าน GPS ประกอบกับข้อมูลสภาพแวดล้อมที่รถสามารถเก็บได้ โดยความเร็วในการทำงานของระบบจัดว่า "ใช้เวลามาก" ในระดับหนึ่ง เอาว่าเดินไปเอารถเองเร็วกว่าครับ
ส่วนฟังก์ชั่นสั่งเลื่อนรถเดินหน้า-ถอยหลัง ได้ใช้บ่อยในหลายสถานการณ์ โดยเฉพาะการจอดรถในช่องแคบๆ ที่เราไม่สามารถเปิดประตูลงมาได้ เนื่องจากติดอุปสรรคข้างๆ หากใช้ระบบสั่งเลื่อนรถ ก็จะสามารถสั่งเลื่อนออกมาในพื้นที่ที่เราขึ้น-ลงรถอย่างสะดวกได้ง่ายมากขึ้น
แต่เอาเข้าใจ ในโลกแห่งความเป็นจริง คนเราค่อนข้างจะหลีกเลี่ยงการจอดรถในพื้นที่ที่ขึ้น-ลงรถได้ยาก หรือเปิดประตูได้น้อย เนื่องจากอาจโดนรถยนต์คันข้างๆ เปิดประตูกระแทกใส่ได้นั่นเอง อันส่งผลให้รถของเราเป็นรอยซะเปล่าๆ เพราะงั้นแล้วในโลกความเป็นจริงของบ้านเรา ระบบ Summon มีโอกาสได้ใช้น้อยมากครับ
สรุป EAP น่าซื้อไหม?
โดยสรุปแล้ว ระบบ Tesla EAP ถามว่าน่าซื้อไหม? ต้องบอกว่าอยู่ที่ลักษณะการใช้งาน หากคุณขับรถเดินทางไกลบ่อยมากๆ อารมณ์ว่าขับรถออกต่างจังหวัดบ่อยมากจริงๆ ขับเดือนนึงทะลุ 3,000 กิโลเมตร หรือใช้เวลาอยู่บนรถเยอะมากๆ ระบบ EAP จะช่วยทำให้การขับรถของคุณสะดวกมากยิ่งขึ้น เพราะคุณควบคุมการขับขี่ได้ง่าย เพียงแค่ก้านไฟเลี้ยวอันเดียวเท่านั้น ช่วยลดความเหนื่อยล้าในการเดินทางได้เป็นอย่างดี
แต่ถ้าคุณอยู่แต่ในเมืองซะมากกว่า นานๆ ทีขับทางไกล ระบบ EAP อาจจะเก็บไว้พิจารณาก่อนได้ และไปตัดสินใจซื้อหลังจากรับรถได้ครับ
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ไปกับ Autospinn
ค้นหารถมือสองทุกรุ่น ทุกแบบ ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน ดูรายละเอียด และราคารถมือสองได้ที่ ตลาดรถมือสอง One2car
LINE
เช็กวงเงินใน 3 นาที
ความคิดเห็น